หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระอธิการเฉลิม นิสฺสโร (ใจเย็น)
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๔ ครั้ง
ประสิทธิผลการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของวัดในอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ( สาขาการจัดการเชิงพุทธ )
ชื่อผู้วิจัย : พระอธิการเฉลิม นิสฺสโร (ใจเย็น) ข้อมูลวันที่ : ๒๔/๐๙/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหาสุนันท์ สุนนฺโท
  พระมหากฤษฎา กิตฺติโสภโณ
  -
วันสำเร็จการศึกษา : 2561
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

              การการวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาประสิทธิผลการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของวัดในอำเภอบ้านบึง  จังหวัดชลบุรี ๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ที่มีต่อประสิทธิผลการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของวัดในอำเภอบ้านบึง  จังหวัดชลบุรี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล  ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่มีต่อประสิทธิผลการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของวัดในอำเภอบ้านบึง  จังหวัดชลบุรี

              ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed - Methods Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการวิจัยเชิงสำรวจ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากพระสงฆ์ในอำเภอบ้านบึง
จังหวัดชลบุรี  ได้จำนวน ๒๑๐ รูป จากพระสงฆ์ทั้งหมด ๔๔๐ รูป โดยใช้สูตรการคำนวณกลุ่มตัวอย่าง
ของ ทาโร่ ยามาเน่ (
Taro Yamane) เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับอยู่ที่ ๐.๘๓๕ เป็นคำถามแบบปลายเปิดและปลายปิด โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ  ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงแบนมาตรฐาน
และทดสอบค่าที (
t-test)  และค่าเอฟ (F-Test) และการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๑๐ รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา

     

 

 

 

 

 

 

ผลการวิจัยพบว่า

                   ๑) พระสงฆ์มีความคิดเห็นต่อประสิทธิผลการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของวัด
ในอำเภอบ้านบึง  จังหวัดชลบุรี 
ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =๔.๑๒) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน คือ ด้านการวางแผน ด้านการจัดองค์กร ด้านการบริหารงานบุคคล
ด้านการอำนวยการ และด้านการควบคุม ตามลำดับ

    ๒) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อประสิทธิผลการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของวัดในอำเภอบ้านบึง  จังหวัดชลบุรี จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล พบว่า พระสงฆ์ที่มีอายุ,พรรษา,วุฒิการศึกษานักธรรม,วุฒิการศึกษาสามัญ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ ประสิทธิผลการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของวัดในอำเภอบ้านบึง  จังหวัดชลบุรี แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ ๐.๐๕
จึงเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย ส่วนพระสงฆ์ที่มีวุฒิการศึกษาสามัญ พระสงฆ์ที่มี
วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม วุฒิการศึกษาสามัญ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อประสิทธิผลการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของวัดในอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี  โดยภาพรวม
ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้

                   ๓) ปัญหา อุปสรรค ประสิทธิผลการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของวัดในอำเภอบ้านบึง  จังหวัดชลบุรี พบว่า ๑) ผู้ที่จะอุปสมบทไม่เคยมาอยู่วัดและไม่ได้รับการฝึกฝนเรียนรู้ในกิจวัตรต่างๆ ของความเป็นพระสงฆ์  ๒) ขาดงบประมาณในการสนับสนุนให้พระสงฆ์และสามเณรให้ได้รับการศึกษา
๓) พระสังฆาธิการไม่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการภายในวัด ๔) พระสังฆาธิการมีการไม่มีการมอบหมายหน้าที่ต่างๆ ภายในวัดให้กับพระสงฆ์และไม่มีการให้ตำแหน่งทางคณะสงฆ์แก่พระสงฆ์และไม่มีการให้นิตยภัตพระสงฆ์ภายในวัดภายในวัด  ข้อเสนอแนะ พบว่า ๑) พระอุปัชฌาย์ควรมีการให้ผู้ที่จะอุปสมบทต้องมาอยู่ประจำที่วัดก่อนได้รับการอุปสมบทอย่างน้อย ๗-๑๕ วัน และควรมีการให้ผู้ที่จะอุปสมบทได้รับการฝึกฝนเรียนรู้ในกิจวัตรต่างๆ ของความเป็นพระสงฆ์ก่อนได้รับการอุปสมบท ๒) พระสังฆาธิการควรมีการจัดหางบประมาณและให้การสนับสนุนให้พระสงฆ์และสามเณรได้รับการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม ๓) พระสังฆาธิการควรมีการบริหารจัดการวัดแบบมีส่วนร่วมเพื่อความสามัคคีภายในวัด ๔) พระสังฆาธิการควรมีการมอบหมายหน้าที่ตำแหน่งทางคณะสงฆ์และควรมีการให้นิตยภัตพระสงฆ์ภายในวัดภายในวัด

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕