บทคัดย่อ
การวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่ต่อการบริหารจัดการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่มีต่อการบริหารจัดการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed - Methods Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการวิจัยเชิงสำรวจ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากพระสงฆ์ในอำเภอเมือง
จังหวัดชลบุรี ได้จำนวน ๓๐๐ รูป จากพระสงฆ์ทั้งหมด ๑,๒๐๕ รูป โดยใช้สูตรการคำนวณกลุ่มตัวอย่าง
ของ ทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับอยู่ที่ ๐.๗๑๓ เป็นคำถามแบบปลายเปิดและปลายปิด โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงแบนมาตรฐาน
และทดสอบค่าที (t-test) และค่าเอฟ (F-Test) และการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๑๐ รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
๑) พระสงฆ์กลุ่มตัวอย่าง มีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =๔.๐๖)และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน คือ ด้านการวางแผน ด้านการจัดองค์กร ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการอำนวยการ และด้านการควบคุม ตามลำดับ
๒) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อการบริหารจัดการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล พบว่า พระสงฆ์ที่มีอายุ,วุฒิการศึกษานักธรรม,วุฒิการศึกษาสามัญ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ การบริหารจัดการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนพระสงฆ์ที่มีพรรษา,วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม ต่างกัน ความคิดเห็นต่อ การบริหารจัดการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสังฆาธิการในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี แตกต่างกัน
มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัย
๓) ปัญหา อุปสรรค การบริหารจัดการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของ
พระสังฆาธิการในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พบว่า ๑) พระสังฆาธิการขาดการวางแผนโยบายการเผยแผ่ ให้สอดคล้องงานของพระสังฆาธิการ ๒) พระสังฆาธิการขาดการฝึกฝนทักษะในการทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ๓) พระสังฆาธิการขาดการสรรหาบุคลากรเพิ่มเติม ๔) พระสังฆาธิการขาดการประสานงานร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ และเอกชน ๕) พระสังฆาธิการขาดการติดตามและตรวจสอบพระสงฆ์ผู้ทำหน้าที่การเผยแผ่ ข้อเสนอแนะ พบว่า ๑) พระสังฆาธิการควรมีการวางแผนโยบาย
การเผยแผ่ ให้สอดคล้องงานของพระสังฆาธิการ ๒) พระสังฆาธิการควรมีการฝึกฝนทักษะในการทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ๓) พระสังฆาธิการควรมีการสรรหาบุคลากรเพิ่มเติม ๔) พระสังฆาธิการควรมี
การประสานงานร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ และเอกชน ๕) พระสังฆาธิการควรมีการติดตาม
และตรวจสอบพระสงฆ์ผู้ทำหน้าที่การเผยแผ่
ดาวน์โหลด
|