บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท ๔ ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ๒) เพื่อเปรียบเทียบการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท ๔ ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว จำแนกตาม สถานภาพ อายุ และ วุฒิการศึกษา และ ๓) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท ๔ ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว การวิจัยวิธีวิทยาแบบผสม ๑) การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และผู้ปกครอง การบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท ๔ ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์ แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว จำนวน ๓๐๒ โดยการเปิดตารางขนาดกลุ่มตัวอย่างสำเร็จรูปของเครซีและมอร์แกน (Krejcie & Morgan) ใช้วิธีการการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ ๐.๙๗ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และด้วยการทดสอบค่าที (t–test แบบ Independent sample) ใช้ทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (F-test แบบ One-way ANOVA) และทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการของเซฟเฟ่ (Scheffe’ method) ๒) การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน ๔ คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสัมภาษณ์ และใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและหาข้อสรุป
ผลการวิจัย พบว่า :
๑. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูผู้สอน และผู้ปกครองต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท ๔ ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว
ผู้บริหาร ครูผู้สอน และผู้ปกครองมีความคิดเห็นต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท ๔ ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ซึ่งประกอบด้วยด้านฉันทะ ด้านวิริยะ ด้านจิตตะ และด้านวิมังสา ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( =๔.๐๓)
๒. เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูผู้สอน และผู้ปกครอง มีความคิดเห็นต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท ๔ ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว โดยแยกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มี สถานภาพ อายุ วุฒิการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็น ต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท ๔ ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาวไม่แตกต่างกัน ซึ่งปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓. แนวทางการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท ๔ ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว คือ
๑) ผู้บริหาร ครูผู้สอนและผู้ปกครองรวมไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการนําไปพัฒนาการบริหารแบบมีส่วนตามหลักอิทธิบาท ๔ โรงเรียนมัธยมสงฆ์ โดยต้องมีใจ ใช้ปัญญา เสียสละ อดทน
๒) ผู้บริหาร ครูผู้สอน และผู้ปกครอง ควรนําหลักอิทธิบาท ๔ เป็นแนวทางในการส่งเสริมพัฒนาการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนมัธยมสงฆ์
๓) ประธานกลุ่มโรงเรียนจัดทําแผนสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างบุคลากรกับผู้ปกครองเพื่อพัฒนาการบริหารแบบมีส่วนตามหลักอิทธิบาท ๔ โรงเรียนมัธยมสงฆ์ มาใช้ในการปฏิบัติงานให้ประสบความสําเร็จ
๕) ผู้บริหารควรให้การอบรมครูผู้สอนและผู้ปกครองในเรื่องพัฒนาการบริหารแบบมีส่วนตามหลักอิทธิบาท ๔ โรงเรียนมัธยมสงฆ์
Download
|