บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบและเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาการบริหารงบประมาณในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักธรรมคุ้มครองโลก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๕ จำแนกตามตำแหน่ง ขนาดโรงเรียน และประสบการณ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๕ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ จำนวน ๔๒๖ คน โดยใช้ตารางของ Krejcie and Morgan และสุ่มตัวอย่างแบบอย่างง่ายด้วยวิธีการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสม (Mixed Methodology Research) ซึ่งใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล๒ประเภท คือ แบบสอบถาม (Questionnaire) และแบบสัมภาษณ์ (Interview) มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .๙๖๓ สถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย () และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) (t-test แบบ Independent samples) (F-test แบบone way ANOVA) และหาค่าความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของ (Scheffe’ method)
ผลการวิจัย พบว่า
๑. บุคลากรสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๕ มีการปฏิบัติตามการบริหารงบประมาณในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักธรรมคุ้มครองโลกในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการจัดทำและเสนอของบประมาณมีค่าเฉลี่ยสูงสุด และด้านการบริหารการเงินมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด
๒. การเปรียบเทียบการบริหารงบประมาณในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักธรรมคุ้มครองโลก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๕ โดยจำแนกตามตำแหน่งมีการปฏิบัติไม่ต่างกันทั้งในภาพรวมและรายด้าน
๓. การเปรียบเทียบการบริหารงบประมาณในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักธรรมคุ้มครองโลก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๕ โดยจำแนกตามขนาดของสถานศึกษามีการปฏิบัติไม่ต่างกันทั้งในภาพรวมและรายด้าน
๔. การเปรียบเทียบการบริหารงบประมาณในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักธรรมคุ้มครองโลก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๕ โดยจำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน มีการปฏิบัติแตกต่างกันทั้งในภาพรวมและรายด้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ดาวน์โหลด
|