บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ ๙ สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ๒) เปรียบเทียบการบริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ ๙, ๓) ศึกษาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ ๙ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสม กลุ่มตัวอย่างการวิจัยเชิงปริมาณ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จำนวน ๓๘๖ รูป/คน สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นในแต่ละกลุ่มแล้วสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .๙๗ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน T–test F-test และทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการของเซฟเฟ่ (Scheffe’ method) กลุ่มเป้าหมายการวิจัยเชิงคุณภาพ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน จำนวน ๑๕ รูป/คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสัมภาษณ์ และใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและหาข้อสรุป
ผลการวิจัย พบว่า :
๑. ประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ ๙ พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักคุณธรรม รองลงมา คือ ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักความคุ้มค่า ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักนิติธรรม ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักความรับผิดชอบ และประสิทธิผลการบริหารด้านหลักความโปร่งใส ตามลำดับ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ประสิทธิผลการบริหารตามหลักการมีส่วนร่วม
๒. เปรียบเทียบประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล จำแนกตามวุฒิการศึกษา พบว่า โดยภาพรวมมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ เมื่อจำแนกตามตำแหน่งหน้าที่ และประสบการณ์ในการทำงาน ไม่แตกต่างกัน
๓. แนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล มีดังนี้ ๑) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย พบว่า แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการบริหารตามหลักนิติธรรมพบว่า โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ควรบริหารงานวิชาการตามระเบียบของทางราชการ เพื่อปลูกฝังให้บุคลากรเคารพกฎระเบียบ และกฎหมายว่าด้วยความเป็นธรรม ๒) ประสิทธิผลการบริหารตามหลักคุณธรรม พบว่า ผู้บริหารควรบริหารงานบุคลากรโดยยึดหลักคุณธรรมมีความซื่อสัตย์สุจริต เมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้การสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรอย่างทั่วถึง ผู้บริหารควรบริหารงานงบประมาณอย่างตรงไปตรงมา มีความชัดเจน มีคณะกำกับและตรวจสอบได้ในทุกระดับ และผู้บริหารควรบริหารงานสัมพันธ์ชุมชน โดยใช้หลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา ๓) ประสิทธิผลการบริหารตามหลักความโปร่งใส สถานศึกษามีการประสานความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจากหน่วยงานต่างๆ ด้วยดี ๔) ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักการมีส่วนร่วม สถานศึกษามีการเปิดโอกาสให้บุคลากร ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้มามีส่วนร่วมในการวางแผนและพัฒนาสถานศึกษา ๕) ประสิทธิผลการการบริหารตามหลักความรับผิดชอบ ผู้บริหารควรส่งเสริมและสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรเกิดความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่อการปฏิบัติงานไม่ทอดทิ้งภาระธุระของสถานศึกษา ๖) ประสิทธิผลการบริหารตามหลักความคุ้มค่า ผู้บริหารควรมีความขยันหมั่นเพียรในการจัดระบบบริหารและพัฒนาองค์กรอย่างสม่ำเสมอตามความรู้ความสามารถและความถนัดของบุคลากร
ดาวน์โหลด |