บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อศึกษาสภาพการเรียนการสอนของครูและนักเรียนสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม กรุงเทพมหานคร ๒. เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนของครูและนักเรียนสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม กรุงเทพมหานคร ๓. เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะแนวทางทางการพัฒนาการเรียนการสอนของครูและนักเรียนสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม กรุงเทพมหานคร เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามความคิดเห็นครูและนักเรียนสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนของครู กลุ่มตัวอย่างเป็นครูและนักเรียนสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม จำนวน ๓๕๐ รูป/คน และแบบสอบถามนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญ ๕ ท่าน ตรวจหาค่า IOC และได้ค่าความสอดคล้องของ IOC เท่ากับ ๐.๘-๑ จากนั้นนำไปทดลองกับกลุ่มตัวอย่างที่ไม่ใช่เป้าหมายที่เป็นนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม สำนักเรียนวัดทองธรรมชาติวรวิหาร เขตคลองสาน จำนวน ๓๐ ฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ ๐.๘๖๓ นำไปเก็บรวบรวมข้อมูลแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๓๕๐ รูป/คน และเก็บข้อมูลสัมภาษณ์ผู้อำนวยการสำนักเรียนพระปริยัติธรรม จำนวน ๗ ท่านให้ได้ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการสถิติวิเคราะห์ ค่าเฉลี่ย (mean) ค่าร้อยละ (Percentage) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และเปรียบเทียบความคิดเห็นครูและนักเรียนทดสอบค่าที (t–test) และ ค่าเอฟ (F–test) กรณีตัวแปรมากกว่าสองกลุ่มทางเดียว (One Way Anova) ทางมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ๐.๐๕ รายคู่ด้วยวิธีการของเซฟเฟ่ (Scheff) โดยกำหนดระดับสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
ผลการวิจัย
ด้านหลักสูตรการเรียนการสอน พบว่า หลักสูตรมีเนื้อหาสาระในการเรียนรู้ได้เหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๕ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ ๐.๖๔ นอกจากนี้ในประเด็นของหลักสูตรมีเนื้อหาสาระมากเป็นเหตุให้นักเรียนเรียนไม่ทันเวลา พบว่าอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๘๘และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ ๑.๑๐ เป็นลำดับสุดท้าย
ด้านการจัดการเรียนการสอน พบว่า ครูแจ้งวัตถุประสงค์การเรียนให้นักเรียนได้ทราบทุกครั้ง ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.45และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ ๐.72 นอกจากนี้ในประเด็นเรื่องของครูมีเทคนิคการสอนแต่ละครั้งมีความหลากหลาย ก็อยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ4.49 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.67 เป็นลำดับสุดท้าย
ด้านสื่อการเรียนการสอน เมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่าด้านครูใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายในการเรียนการสอน อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.41 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ ๐.70 นอกจากนี้ในประเด็นเรื่องของครูใช้สิ่งแวดล้อมเป็นสื่อการเรียนรู้ให้นักเรียนคิดวิเคราะห์เรียนรู้ตนเองจากสภาพจริง อยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.49 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.79 เป็นลำดับสุดท้าย
ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนการสอนพบว่าครูมีการประเมินผลการเรียนประจำปีทุกภาคการศึกษา อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.44 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ ๐.75 นอกจากนี้ในประเด็นการวัดและประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนสอดคล้องกับแผนการสอน อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.20 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ0.81เป็นลำดับสุดท้าย
แนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม
๑. ด้านหลักสูตรการเรียนการสอน ครูสอนควรศึกษาทำความเข้าใจเนื้อหาการจัดการเรียนการสอนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสอน
๒. ด้านการจัดการเรียนการสอน ควรมีกิจกรรมที่หลากหลายในการจัดการเรียนการสอน
๓. ด้านสื่อการเรียนการสอน ควรมีสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆที่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
๔. ด้านการวัดผลและประเมินผลการเรียนการสอน ควรมีเกณฑ์การวัดผลและประเมินผลและเครื่องมือที่ทันสมัยและเพียงพอ
ดาวน์โหลด
|