บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ ๑) เพื่อศึกษาความหมายประวัติความเป็นมาของสงฆ์ในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท ๒) เพื่อศึกษาหลักการปกครองสงฆ์ในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท ๓) เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้หลักอปริหานิยธรรมในการปกครองสงฆ์ โดยการศึกษารวบรวมข้อมูลจากคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง คือพระไตรปิฎก อรรถกถา เป็นต้น เสนอปรับปรุงแก้ไขโดยอาจารย์ที่ปรึกษาเรียบเรียงบรรยายเชิงพรรณนา จากการศึกษาพบว่า
คำว่า สงฆ์ หมายถึงหมู่คณะผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ได้แก่กลุ่มพระภิกษุผู้บวชในพระพุทธศาสนา จัดเป็น ๑ ในพุทธบริษัท ๔ โดยพบว่า รูปแบบของหมู่สงฆ์เกิดขึ้นครั้งแรกคือพระปัญจวัคคีย์ ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ทุกรูป ต่อมาหลังจากพรรษาแรกไม่นาน ได้ทรงแสดงธรรมโปรดหมู่สงฆ์ ๑,๒๕๐ รูป ณ เวฬุวนาราม เมืองราชคฤห์ ด้วยโอวาทปาฏิโมกข์ ในกาลต่อมาเมื่อเกิดสงฆ์สาวกมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งระคนปะปนด้วยพระสงฆ์ปุถุชน พระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติพระวินัยเพื่อควบคุมหมู่สงฆ์เป็นสิกขาบทต่าง ๆ โดยทรงมุ่งหวังประโยชน์ ๑๐ ประการ เพื่อความผาสุกของสงฆ์ เป็นต้น หลักการสำคัญที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ในรูปแบบการปกครองสงฆ์ก็คือ พระธรรมวินัย เป็นองค์ประกอบ ในด้านการประยุกต์ใช้หลักภิกขุอปริหานิยธรรม ๗ ประการ สรุปลงในความสามัคคีของหมู่คณะ และความเคารพในพระธรรมวินัยของสงฆ์ เพราะพระองค์ทรงแสดงหลักธรรมและทรงบัญญัติพระวินัย เพื่อทรงฝึกฝนสมมติสงฆ์และปุถุชนทั่วไป พระธรรมวินัยจึงได้เป็นรูปแบบหลักในการปกครองสงฆ์ พระธรรมเป็นระเบียบของใจ พระวินัยเป็นระเบียบของกาย เมื่อรวมกันเป็นหมู่คณะก็เป็นหมู่คณะที่ดี เมื่อรวมกันเป็นสังคมก็เป็นสังคมที่ดี มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยดีงาม
ดาวน์โหลด |