บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงฆ์ ๓ ประการ คือ ๑) ศึกษาความเป็นมาและประวัติของ “โจ้งแหนะ” ๒) ศึกษาหลักธรรมและคติความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับ “โจ้งแหนะ”๓) ศึกษาการจัดการพิธีกรรม“โจ้งแหนะ” ตามคติความเชื่อชุมชนวัดบางกระดี่ โดยการศึกษาทบทวนคัมภีร์หนังสือตำราที่เกี่ยวข้อง เสนออาจารย์ที่ปรึกษา ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะ เรียบเรียงบรรยายเชิงพรรณนา จากการศึกษาพบว่าในปัจจุบันการศึกษาจากเอกสารต่างๆ จึงพบว่า
“โจ้งแหนะ” เป็นการจำลอง ภพภูมิ ดังที่มีปรากฏในพระไตรปิฎก ก็ดี ในคัมภีร์ต่างๆ ก็พบว่า “โจ้งแหนะ” เป็นการจำลองเอาภพภูมิต่างๆ มาสร้างให้เป็นรูปธรรม จากเดิมที่เป็นนามธรรมเพื่อที่จะได้ง่ายต่อการที่จะอธิบาย ให้ผู้ที่เขาสนใจได้เข้าใจในหลักธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นแนวทางที่จะศึกษา และปฏิบัติตามในหลักธรรมคำสอน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง แก่ส่วนรวมเมื่อตนได้ทำความดี ก็จะมีความสุขสงบร่มเย็น และจะส่งผลดีแก่คนรอบข้างให้ได้รับความร่มเย็นในคุณธรรมที่ได้ประพฤติปฏิบัติต่อไป
“โจ้งแหนะ” ใช้ในการอธิบายให้เห็นสัณฐานต่างๆ ของจักรวาล ชาติภพ ภพภูมิทั้งสามนอกจากการเวียนว่ายตายเกิดที่เป็นอยู่ในภพภูมิทั้งสามแล้ว ยังเน้นเป้าหมายสูงสุดของการเวียนว่ายตายเกิด คือ “นิพพาน” ความดับสนิทแห่งกองกิเลสและกองทุกข์ มีหนทางไปถึงได้ด้วยการทำความดีตามหลักธรรมคำสอนของศาสนา อันได้แก่การรู้ถึงอริยสัจ ๔ ความจริงอันประเสริฐ และมรรค ๘ สิ่งที่ควรประพฤติเพื่อความรู้แจ้งเห็นจริง
ความตายเป็นสิ่งที่เราทุกคนหลีกหนีไม่พ้นทุกคนก็ต้องประสบพบความตายไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตของญาติพี่น้องเพื่อนฝูงคนที่เรารู้จักและทางศาสนาหรือชาติพันธ์ต่างๆก็มีวิธี การจัดการเกี่ยวกับความตายตามประเพณีและวัฒนธรรมของตนเองชนชาติมอญก็เช่นกันก็มีวิธีการจัดการศพ การทำศพที่ตายดีหรือตายด้วยเหตุธรรมดานั้นเก็บไว้ที่บ้านได้และนิยมเอาศพไว้บนเตียงชนิดหนึ่งที่ทำขึ้นเฉพาะศพนั้นๆเรียกโจ้งแหนะแปลตามคำว่าเตียงชนะคือให้ผู้ตายเอาชนะต่อภูมิทั้ง ๔ ได้แก่อบายภูมิ๔ สุคติภูมิ ๗ รูปภูมิ ๑๖ อรูปภูมิ ๔ เป็นต้น
ดาวน์โหลด
|