บทคัดย่อ
สารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ ๒ ประการ ได้แก่ ๑) เพื่อศึกษาประวัติและการบำเพ็ญบารมีของพระสุภูติเถระ ๒) เพื่อศึกษาวิธีปฏิบัติการบรรลุธรรมของพระสุภูติเถระ โดยการศึกษาข้อมูลจากพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และคัมภีร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น คัมภีร์ วิสุทธิมรรค โดยการเรียบเรียง บรรยาย และตรวจสอบ โดยอาจารย์ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญ จากการศึกษาพบว่า
พระสุภูติเถระเป็นหนึ่งในอสีติมหาสาวก ๘๐ องค์ ในอดีตชาติได้บำเพ็ญบารมีด้วยการกระทำอาสนะดอกไม้อันวิจิตรถวายเป็นอาสนะแก่พระพุทธเจ้าประทุมุตตระตลอด ๗ วัน ๗ คืน และได้ตั้งความปรารถนาเอตทัคคะสาวกบารมี เป็นผู้เลิศในด้านอรณวิหารีและทักขิไณยะ ด้วยอานิสงส์ดังกล่าว ในชาติสุดท้ายจึงได้เกิดในตระกูลร่ำรวยและมีร่างกายผ่องใสรุ่งเรืองอย่างยิ่ง และผิวพรรณผุดผ่อง จึงนำมาซึ่งความเลื่อมใสแก่บุคคลเป็นจำนวนมาก เพราะความเป็นผู้มีลักษณะดี ผิวผ่องใสสะอาด จึงได้นามว่า สุภูติ มีความหมายว่าผู้เกิดดีแล้ว
การบรรลุธรรมของพระสุภูติเถระ ในชาติสุดท้ายมีสูงสุดท้ายได้เกิดเป็นหลานชายของอนาถปิณฑิกเศรษฐี ได้ตามลุงไปฟังธรรมกับพระพุทธเจ้าเป็นประจำตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อเติบโตขึ้นจึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใสและปรารถนาออกบวช จึงขออนุญาตบวชกับพระพุทธเจ้า จากนั้นได้เรียนกรรมฐานบำเพ็ญเพียรสมณธรรมในป่ากระทำเมตตาฌานให้เป็นบาทฐานแล้วเจริญวิปัสสนาไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหันตผลพร้อมด้วยอภิญญา ๖ ในวันฉลองวัดพระเชตวันมหาวิหาร พระสุภูติเถระได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าเป็นเอตทัคคะ ๒ ด้าน คือเป็นเอตทัคคะด้านอรณวิหารธรรมเมตตาฌานหมายถึงผู้เป็นอยู่อย่างไม่มีข้าศึก คือเป็นอยู่ด้วยความไม่มีกิเลส และทักขิไนยบุคคลคือ เป็นผู้ควรรับทักษิณาทานเพราะท่านมีปฏิปทานำมาซึ่งความเลื่อมใสแก่ผู้พบเห็น
ดาวน์โหลด
|