บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการพัฒนาจิตเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะแบบองค์รวมตามแนวพุทธจิตวิทยาและด้วยกฎแห่งแรงดึงดูด เพื่อศึกษาประสิทธิผลกระบวนการพัฒนาจิตเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะแบบองค์รวมและเพื่อนำเสนอกระบวนการพัฒนาจิตเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะแบบองค์รวมตามแนวพุทธจิตวิทยาและกฎแห่งแรงดึงดูด โดยมีวิธีการดำเนินงานวิจัยคือ กลุ่มตัวอย่างเป็นชุมชนวัดสำโรง ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม จำนวน ๒๔ คน ในการวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistic)
การแจกแจงความถี่ (Frequency) คิดเป็นร้อยละ (Percentage) การหาค่าเฉลี่ย (Mean)
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และ t -test
จากการวิจัยครั้งนี้ พบว่า กระบวนการพัฒนาจิตเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะแบบองค์รวมตามแนวพุทธจิตวิทยาและการปฏิบัติตามกฎแห่งแรงดึงดูด สามารถส่งเสริมให้เกิดขึ้นได้ ด้วยโปรแกรมการฝึกอบรมที่สำคัญได้แก่ ความตั้งใจมั่นที่อยู่บนพื้นฐานที่คิดบวก การมองด้านบวกอย่างมีสติ การยืนกรานต่อความคิด การจินตนาการในเชิงบวก การใช้สมาธิ และ ความเชื่อมั่นในกฎและการปล่อยวาง
ซึ่งทำให้เกิดภาวะของความสุขในแบบองค์รวมได้ทั้งยังมีความต่อเนื่องกับความสุขแบบองค์รวมนั้นด้วย
ซึ่งผลการทดลองโปรแกรมการฝึกอบรมพุทธจิตวิทยากับกฎแห่งแรงดึงดูด พบว่า กระบวนการพัฒนาสุขภาวะทางกายของกลุ่มตัวอย่าง มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงขึ้นที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการเปลี่ยนความคิดและมุมมองที่มีต่อการดูแลสุขภาพโรคภัยไข้เจ็บได้รับรู้กฎของธรรมชาติตามความเป็นจริง เมื่อประสบกับความเจ็บป่วยอยู่จะพยายามเข้าใจใช้ทักษะในการดูแลอาการของโรคให้ดีขึ้น ด้านสุขภาวะทางจิต พบว่ากลุ่มตัวอย่าง ได้เข้าใจกระบวนการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งจึงมีความเชื่อว่ากายกับจิตนั้นมีส่วนสัมพันธ์กัน ถ้าจิตป่วยกายก็จะป่วยด้วย ควรปลูกฝั่งแนวคิดที่เป็นกุศลจิตเพื่อการพัฒนาทางจิตที่งดงามมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่ควรพัฒนาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นองค์ความรู้ทั้งปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธให้กลุ่มตัวอย่างได้เข้าใจ เข้าถึงองค์ธรรมอย่างเหมาะสม ในส่วนด้านสุขภาวะทางสังคม พบว่ากลุ่มตัวอย่าง ได้พัฒนาการความศรัทธาเชื่อในกฎแห่งกรรม และมีความเพียรพยายามประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ซึ่งทำให้พร้อมจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จึงจำเป็นต้องส่งเสริมให้คนในสังคมเกิดการตระหนักรู้จิตให้การบริการ เคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ พัฒนาให้เกิดความคิดที่เป็นสัมมาทิฐิอันชอบแล้วด้วยธรรม และด้านสุขภาวะทางปัญญา พบว่ากลุ่มตัวอย่าง ได้เกิดการตระหนักรู้แจ้งเท่าทันความจริงของชีวิต
มีระบบความคิดสร้างสรรค์กฎแห่งแรงดึงดูดและมีกระบวนการคิดที่สมเหตุผลโดยเชื่อว่าการที่บุคคลสามารถจะเกิดสุขภาวะทางปัญญาได้ จำต้องเข้าสู่การปฏิบัติสมถและวิปัสสนากรรมฐานเป็นเบื้องต้น ซึ่งต้องพยายามให้มีความเชื่อในตนเอง และเชื่อว่าความสุขในการตื่นรู้ทำให้ชีวิตดำเนินไปด้วยวิถีแห่งธรรม อันเอื้อต่อความเข้าใจหลักพุทธจิตวิทยากับกฎแห่งแรงดึงดูดอย่างบูรณาการ
ดาวน์โหลด
|