หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » แม่ชีสังวาลย์ บุญช่วย
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๓ ครั้ง
ศึกษาโลภเจตสิกในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา
ชื่อผู้วิจัย : แม่ชีสังวาลย์ บุญช่วย ข้อมูลวันที่ : ๒๗/๐๓/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(วิปัสนาภาวนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  วิโรจน์ คุ้มครอง
  -
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๓ มกราคม ๒๕๖๑
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

 

             สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ คือ ศึกษาโลภเจตสิกในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท และเพื่อศึกษาโลภเจตสิในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา โดยการศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาทพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา คัมภีร์ปกรณวิเสส ตำราทางวิชาการต่างๆ และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นำมารวบรวมสรุปวิเคราะห์ เรียบเรียงบรรยายเชิงพรรณนา ตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ จากการศึกษาพบว่า

              โลภมูลจิต ๘ จัดอยู่ในอกุศลจิตมีความโลภเป็นมูลเป็นประทาน มีการปรุงแต่งจิตให้มีอาการของความโลภความอยากได้ อาจรุนแรงถึงกับประพฤติเป็นทจริต อำนาจของความโลภทำหน้าที่ดึงจิตให้ปรารถนากามคุณไม่สิ้นสุด จิตที่มีโลภเจตสิกประกอบจะแสดงอาการถือมั่นอารมณ์เป็นลักษณะ มีการติดในอารมณ์เป็นกิจ และยังเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ทำให้จิตเกิดความเร่าร้อนเพราะกิเลสเป็นผล คือ โลภะเป็นเหตุแห่งทุกข์ในสมุทยสัจ โลภเจตสิกแม้ดวงเดียวมีผลให้เป็นทุกข์เร่าร้อนทั้งกายและใจ สภาพของโลภะ คือ ความพอใจในอารมณ์ที่เข้าไปยึดถือติดข้อง ความโลภในพระสูตรต่างๆ ที่กล่าวถึงโลภเจตสิกหมายรวมเอาตัณหาความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ความยึดติด ความหวงแหนซึ่งเป็นเหมือนเชือกที่ผูกสัตว์ไว้แล้วแต่ว่าสัตว์นั้นจะถูกดึงไปในทิศทางไหน จิตที่มีโลภเจตสิกมีความโลภมักนำไปสู่อบายภูมิเท่านั้น เพราะมักยึดมั่นและไหลไปสู่อารมณ์ที่เกิดขึ้นมาทันที

             ในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา ผู้ปฏิบัติที่เข้าใจโลภเจตสิกซึ่งมีผลให้จิตแสดงออกมาเป็นทุจริตในระดับต่างๆ ซึ่งสามารถละได้ด้วยการดำเนินตามหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา และพิจารณาอารมณ์วิปัสสนาด้วยการกำหนดรู้สภาพของโลภเจตสิก เหมือนของมักดองหรืออาสวะที่ทำให้มึนเมา หรือเหมือนโอฆะ คือน้ำที่ไหลอยู่ตลอดเวลา จากนั้นให้จิตมีสติและสัมปชัญญะกำกับรู้พฤติกรรมของจิตตามหลักจิตตานุปัสสนาคือ เมื่อใดมีจิตประกอบด้วยโลภะหรือราคะให้เห็นความเป็นสภาพไตรลักษณ์ นอกจากนั้นให้พัฒนาอินทรีย์และน้อมจิตเข้าสู่วิปัสสนาญาณ เมื่อจิตมีกำลังและแก่กล้าและไม่หยุดการเจริญวิปัสสนาภาวนาย่อมทำให้บรรลุมรรค ผล เพราะรู้แจ้ง อริยสัจจ์ ๔ มีทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ถึงความดับทุกข์ คือพระนิพพานได้ในที่สุด

ดาวน์โหลด

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕