บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑) เพื่อศึกษาการปฏิบัติตนตามหลักคารวธรรมของนักเรียนโรงเรียนกอบกาญจน์ศึกษามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ๒) เพื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติตนตามหลักคารวธรรมของนักเรียนโรงเรียนกอบกาญจน์ศึกษามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มีเพศ ระดับชั้นปี เกรดเฉลี่ย อาชีพผู้ปกครอง จำนวนครั้งในการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และสถานภาพครอบครัว ต่างกัน และ ๓) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักคารวธรรมของนักเรียนโรงเรียนกอบกาญจน์ศึกษามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ปีการศึกษา ๒๕๕๖ ของโรงเรียนกอบกาญจน์ศึกษามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน ๔๒๑ คน โดยการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง โดยวิธีใช้ตารางสำเร็จรูปของเคร็ซซี่ และมอร์แกน ได้กลุ่มตัวอย่าง ๒๐๑ คน สุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มตามลำดับชั้น แบบสัดส่วน โดยเทียบบัญญัติไตรยางศ์จากนั้นทำการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ตารางเลขสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามการปฏิบัติตนตามหลักคารวธรรมของนักเรียนโรงเรียนกอบกาญจน์ศึกษามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็นแบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่น .๙๕๐ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าความถี่, ค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ค่า t–test, ค่า F-test และทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่ตามวิธีการ LSD (Least Significant Difference)
ผลการวิจัย พบว่า
๑) การปฏิบัติตนตามหลักคารวธรรมของนักเรียนโรงเรียนกอบกาญจน์ศึกษามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยรวมทั้ง ๖ ด้าน อยู่ในระดับมาก (=๓.๗๐) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านปฏิสันถารคารวตา (การเคารพในการต้อนรับ) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (=๓.๙๑) รองลงมา คือ ด้านพุทธคารวตา (การเคารพในพระพุทธเจ้า) (=๓.๘๐) ส่วนด้านสังฆคารวตา (การเคารพในพระสงฆ์) มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (=๓.๕๔) และเมื่อพิจารณาโดยจำแนกตามเพศ ระดับชั้นปี เกรดเฉลี่ย อาชีพผู้ปกครอง จำนวนครั้งในการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และสถานภาพครอบครัว พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก
๒) ผลการเปรียบเทียบการปฏิบัติตนตามหลักคารวธรรมของนักเรียนโรงเรียนกอบกาญจน์ศึกษามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พบว่า นักเรียนที่มี เกรดเฉลี่ย และจำนวนครั้งในการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ต่างกัน มีการปฏิบัติตนตามหลักคารวธรรม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ เมื่อจำแนกตามเพศ ระดับชั้นปี อาชีพผู้ปกครอง และสถานภาพครอบครัว ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
๓) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักคารวธรรมของนักเรียนโรงเรียนกอบกาญจน์ศึกษามูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พบว่า นักเรียนเสนอแนะเกี่ยวกับด้านสิกขาคารวตา (การเคารพในการศึกษา) มากที่สุด โดยมีแนวทางส่งเสริม ได้แก่ นักเรียนควรตั้งใจ ขยันเรียน นักเรียนควรค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ และนักเรียนควรให้ความเคารพ ให้เกียรติครูผู้สอน
ดาวน์โหลด |