บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเลขานุการเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเลขานุการเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดนครราชสีมา จำแนกตามตัวแปร อายุ พรรษา และวุฒิการศึกษาทางโลก และเพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเลขานุการเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เลขานุการเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน ๑๔๙ รูป เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามและสัมภาษณ์โดยการสัมภาษณ์เลขานุการเจ้าคณะตำบล จำนวน ๙ รูป สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test) และเนื้อหา
ผลการศึกษาวิจัยพบว่า
๑. ระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเลขานุการเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดนครราชสีมา โดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง
๒. เลขานุการเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีอายุต่างกัน มีประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านจัดการทุกอย่างเกี่ยวกับงานสารบรรณแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ โดยเลขานุการที่มีอายุต่ำกว่า ๔๐ ปี มีประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉลี่ยสูงกว่าเลขานุการเจ้าคณะตำบลที่มีอายุ ๔๐ ปีขึ้นไป
๓. เลขานุการเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีพรรษาต่างกัน มีประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่โดยภาพรวมไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ .๐๕ และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ .๐๕ เช่นเดียวกัน
๔. เลขานุการเจ้าคณะตำบล ในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีวุฒิการศึกษาทางโลกที่แตกต่างกัน มีประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านประสานกับพระสังฆาธิการ และหน่วยงานหรือบุคคลผู้เกี่ยวข้อง และด้านช่วยเหลือด้านสวัสดิการสังคม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ โดยเลขานุการที่มีวุฒิการศึกษาทางโลกต่ำกว่าปริญญาตรี มีประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉลี่ยต่ำกว่าเลขานุการเจ้าคณะตำบลที่มีวุฒิการศึกษาทางโลกปริญญาตรีขึ้นไป ส่วนด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ .๐๕
ดาวน์โหลด
|