บทคัดย่อ
งานศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑.เพื่อศึกษาเนื้อหาของพรหมวิหารธรรมในคัมภีร์พระไตรปิฎก ๒. เพื่อศึกษาการใช้พรหมวิหารธรรมในสังคมไทย ๓. เพื่อเสนอวิธีประยุกต์ใช้พรหมวิหารธรรมในการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทพิษณุโลกทรัคออโต้เซลส์ จำกัด เป็นวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือวิจัย มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน ๒๐ คน ใช้พื้นที่วิจัยที่ บริษัทพิษณุโลกทรัคออโต้เซลส์จำกัด ที่สาขาพิษณุโลก
ผลการวิจัยในบทที่ ๒ พบว่า พรหมวิหาร เป็นหมวดธรรมซึ่งพระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญและเผยแผ่อบรมสั่งสอนสรรพสัตว์ ในระหว่างการบำเพ็ญบารมีหลายยุคหลายสมัย การเจริญพรหมวิหาร จึงเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ดังข้อมูลที่ปรากฏในพระสุตันตปิฎก ผู้วิจัยยกตัวอย่างมา ๔ สูตรคือ มฆเทวสูตร มหาสุทัสสนสูตร มหาโควินทสูตร และโทณสูตร
คำว่า “พรหมวิหาร” แปลว่า ธรรมเป็นเครื่องอยู่อย่างพรหม แยกศัพท์เป็น พรหม+วิหาร ความหมายพรหมนั้น มี ๓ ความหมายคือเป็นผู้สร้าง ในศาสนาฮินดู หมายถึงบิดามารดา คำว่า วิหารนั้นจำแนกคำว่า วิหาร ๔ อย่างคือ อิริยาบถวิหาร ทิพพวิหาร อริยวิหาร และ พรหมวิหาร ที่ได้ชื่อว่าพรหมวิหารนั้น เพราะคุณธรรมอันปะเสริฐ และโดยภาวะที่เป็นคุณธรรมจากโทษ
ผลจากการวิจัยในบทที่ ๓ พบว่า การใช้พรหมวิหารธรรมในสังคมไทยก็สอดคล้องกับอุปนิสัยของคนไทยเป็นเพราะเป็สสังคมแห่งความเมตตา-กรุณา จนเป็นที่ประจักษ์และชื่นชมของชาวต่างชาติ เพราะว่าสังคมไทยเน้นหนักไปทางเมตตา กรุณา และกำกับด้วยมุทิตากับอุเบกขา อันแสดงให้เห็นว่าสังคมไทย ใช้หลักพรหมวิหารแบบอย่างสมดุล ในระดับผู้นำ การใช้พรหมวิหาร ทำให้บ้านเมืองเจริญ ในเชิงธุรกิจ ให้นักธุรกิจเรียนรู้ความสุขที่ไม่ได้มาจากการบริโภค แต่เป็นความสุขที่มาจากฉันทะ และพรหมวิหารธรรม นับเป็นความสำเร็จที่แท้จริงของนักธุรกิจ
ผลการวิจัยในบทที่ ๔ พบว่า พนักงานบริษัทมีวิธีประยุกต์พรหมวิหารอยู่ ๓ แนวทางคือ -เป็นธรรรมของผู้ประเสริฐ เป็นหลักธรรมประจำใจเพื่อให้ตนและส่วนรวมดำเนินชีวิตได้อย่างประเสริฐ มีความรัก ความสามัคคี และหวังความก้าวหน้าของตนและบริษัท -เป็นธรรมะที่ใช้ในการการดำรงชีวิต ได้อย่างมีความสุข -ธรรมประจำใจของผู้ใหญ่ และผู้นำทุกระดับชั้นเข้าสู่ความสำเร็จ
ดาวน์โหลด
|