หนังตะลุงเป็นสื่อศิลปะพื้นบ้านที่แสดงกันอย่างแพร่หลายในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีคณะหนังตะลุงมากที่สุดจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ แต่หลักฐานไม่ปรากฏชัดว่า เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยใด แต่มีการสันนิษฐานว่าน่าจะเข้ามาในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๓–๑๗ โดยได้รับอิทธิพลมาจากหนังตะลุงอินเดีย หนังตะลุงชวา และหนังตะลุงมลายู และได้ผสมผสานกับรูปแบบการแสดงหนังตะลุงของไทย ต่อมาได้พัฒนารูปแบบการแสดงหนังตะลุงแบบไทยขึ้นมาตามลำดับ และในส่วนหลักศีลธรรมที่ปรากฏในเนื้อของหนังตะลุงนั้น พบว่า มีอยู่หลายประการด้วยกัน แต่ที่พบบ่อยครั้งได้แก่ ๑. กรรม ๒. ศีล๕ ๓. อบายมุข ๔. ความกตัญญูกตเวที ๕. ทิศ ๖ ๖.ฆราวาสธรรม ๗. พรหมวิหารธรรม เป็นต้นในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้เลือกศึกษาหนังตะลุงคณะสุรเชษฏ์ บันเทิงศิลป์ ซึ่งเป็นหนังตะลุง ที่มีชื่อเสียงคณะหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับหลักธรรมที่ปรากฎอยู่ในเนื้อหาของหนังตะลุงคณะสุรเชษฏ์ บันเทิงศิลป์ รวมถึงการนำเนื้อหาของธรรมเหล่านั้นไปถ่ายทอดแก่ประชาชนจากการสังเกตการณ์ และการสัมภาษณ์ นักวิชาการ นายหนังตะลุง และประชาชนพบว่า เนื้อหาของหนังตะลุงได้รับอิทธิพลจากพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก และหลักธรรมที่นายหนังตะลุงนำเสนอนั้นก็มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนในภาคใต้เป็นอย่างดี คนดูสามารถนำไปประพฤติใช้ได้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้หนังตะลุงมีส่วนในการพัฒนาการเรียนรู้ให้กับประชาชนในหลาย ๆ ด้าน เป็นต้นว่า ด้านศีลธรรม การเมืองการปกครอง การสาธารณสุข ด้านสังคม ประเพณีวัฒนธรรม เป็นต้น ดังนั้นกล่าวได้ว่า หนังตะลุงก็คือ ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนเคลื่อนที่ ทั้งนี้เพราะประชาชน ยังสามารถรับรู้ข่าวสารอื่น ๆ โดยผ่านทางหนังตะลุงหนังตะลุงเป็นสื่อพื้นบ้านที่มีคุณค่าต่อสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อว่าหากมีการพัฒนาและปรับปรุงให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมแล้วสังคม หนังตะลุงจะยังคงทำหน้าที่ในการรับใช้สงคมไทยตลอดไป
Download : 255156.pdf