บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์เรื่องการศึกษาวิเคราะห์หลักชันตาฆรวัตรในพระพุทธศาสนาเถรวาทกับการอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน เป็นวิจัยเชิงเอกสารโดยมีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ (๑) ศึกษาชันตาฆรวัตรที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท (๒) ศึกษาการอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน และ(๓) ประยุกต์หลักชันตาฆรวัตรในพระพุทธศาสนาเถรวาทกับการอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน โดยการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องและศึกษาจากเอกสารแล้วนำมาวิเคราะห์
การศึกษาชันตาฆรวัตรที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท ผลการวิจัยพบว่า ชันตาฆรวัตรหมายถึงข้อวัตรปฏิบัติในเรือนไฟ เพื่อการประพฤติชอบในการใช้เรือนไฟของพระภิกษุ ความเป็นมาของชันตาฆรวัตร คือ ชันตาฆรวัตรเกิดขึ้นโดยการทูลขอของหมอชีวกโกมารภัจ ลักษณะเรือนไฟครั้งพุทธกาล คือ การสร้างแบบเรียบง่ายเน้นการใช้ประโยชน์ที่คุ้มค่าซึ่งมีความแข็งแรงใช้วัสดุที่มีอยู่ตามธรรมชาติ อโรคยาศาลาในพระพุทธศาสนา คือ โรงพยาบาลในทางพระพุทธศาสนาสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการรักษาและป้องกันโรค ปัจจุบันพัฒนาการจากเรือนไฟเป็นศาลาที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ วัตร ๑๔ คือ ข้อที่พึงปฏิบัติ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย แก่สิ่งของสถานที่ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อความผาสุกแก่เพื่อนพรหมจารีที่เข้าไปเกี่ยวข้อง หลักการของชันตาฆรวัตร คือ ป้องกันและรักษาโรค วิธีการของชันตาฆรวัตร คือ การเตรียมความพร้อมของเรือนไฟ การเตรียมตัวก่อนเข้าเรือนไฟ การปฏิบัติหลังจากการใช้เรือนไฟ การรักษาเรือนไฟ ให้คณะสงฆ์มีความรับผิดชอบ ผลของชันตาฆรวัตร คือ เมื่อศึกษาและปฏิบัติตามหลักของชันตาฆรวัตรก็จะทำให้ได้ทราบข้อสิกขาบทเกี่ยวกับชันตาฆรวัตร ทำให้ร่างกายแข็งแรงเป็นผู้ปราศจากโรคภัยทั้งทางกายและทางใจ
การอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน ผลการวิจัยพบว่า การอบสมุนไพร หมายถึง การรมด้วยควันในที่ที่ควันกระจายออกไปไม่ได้ ด้วยการใช้ไอน้ำหรือไอไฟที่ควันออกมา ผสมด้วยสมุนไพรซึ่งเป็นตัวยาสำคัญในการใช้ป้องกันโรค โรงอบสมุนไพรของวัดมีหลักการคือ นำเอาไอน้ำความร้อนที่เกิดจากการต้มน้ำสมุนไพร แล้วส่งเข้าไปในห้องอบสมุนไพร มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อรักษาสุขภาพ และดูแลสุขภาพได้ด้วยตนเอง วิธีการอบสมุนไพร คือ คัดเลือกสมุนไพร ใช้อุณหภูมิความร้อนที่เหมาะสมความร้อนอยู่ประมาณ ๔๐ –๖๐ องศา ผู้จะเข้ารับการอบสมุนไพรต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำเปล่าเข้าไปนั่งในตู้ อย่างน้อย ประมาณ ๑๕-๓๐ นาที ปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางวัดที่ได้กำหนดขึ้น โรงอบสมุนไพรทั่วไปของคฤหัสถ์มีหลักการคือ เข้าไปนั่งในตู้อบ ให้คนไข้ผ่อนคลายใช้กลิ่นสมุนไพรที่เหมาะสมให้ระเหย อบอวลและแทรกซ้อนเข้าไปในผิวหนัง เข้าไปทางจมูก นัยน์ตาทำให้เหงื่อออกขับสารพิษออกจากร่างกาย วิธีการคือ ตรวจสอบบุคคลเข้ารับการอบสมุนไพรใช้ความร้อนประมาณ ๔๕ – ๕๕ องศา ผู้เข้ารับการอบสมุนไพรต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำให้ก่อนเข้ารับการอบ ใช้ระยะเวลาในการเข้าอบสมุนไพรประมาณ ๑๕ นาที พัก ๕ นาที แล้วอบอีกรอบ เมื่อออกจากห้องอบแล้วไม่ควรอาบน้ำทันที ผลจากการเข้าอบสมุนไพรเมื่อเข้าอบสมุนไพรแล้วจะทำให้รู้สึกสดชื่น สบายกายและสบายใจ รักษาโรคทางกาย เช่น คลายเส้นเอ็น วิงเวียนศีรษะ เป็นหวัด ไมเกรน หืดหอบ เส้นตึง อัมพฤกษ์ อัมพาต ความดัน ปวดหัว ขับสารพิษออกจากร่างกายทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพจิตที่ดี
การประยุกต์ชันตาฆรวัตรนำมาใช้ในการอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน ผลการวิจัยพบว่า หลักการอบสมุนไพรในปัจจุบันเป็นการสร้างขึ้นเพื่อใช้ในเชิงธุรกิจ ไม่ใช่เป็นการสร้างในเชิงสังคมสงเคราะห์ ลักษณะหลักการของการอบสมุนไพรในปัจจุบันสร้างความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นให้กับสังคม หากใช้ลักการของชันตาฆรวัตร ก็จะสามารถสร้างสังคมที่ดีและคงคุณค่าของการมีชีวิตร่วมกันในสังคม วิธีการอบสมุนไพรตามหลักของชันตาฆรวัตร เป็นไปเพื่อความเอื้อเฟื้อต่อหมู่คณะ ให้พระภิกษุสงฆ์เห็นความสำคัญของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้งาน และมีความรับผิดชอบร่วมกันควรนำวิธีการอบสมุนไพรแบบชันตาฆรวัตรมาใช้เพื่อให้สังคมมีความเอื้อเฟื้อต่อกัน สร้างห้องอบสมุนไพรเน้นการใช้ประโยชน์ส่วนรวม ไม่ได้เป็นไปในเชิงธุรกิจ การนวดตามแบบของชันตาฆรวัตรที่ผสมผสานกับสมุนไพรสร้างให้ร่างกายมีความแข็งแรง และรักษาโรคได้
ดาวน์โหลด
|