บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานตามหลักพุทธธรรมของบุคลากรกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ๒) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรตามหลักพุทธธรรมกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรและหลักพุทธธรรมกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง การศึกษาวิจัยครั้งนี้ ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ ( Quantitative Research ) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ บุคลากรหน่วยงานกลางของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จำนวน ๒๙๗ คน ดำเนินสุ่มตัวอย่างจากตารางสำเร็จรูป ของ Krejcie & Morgan เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ แบบสอบถาม(Questionnaire) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบียนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบสมมติฐานด้วยการทดสอบค่าที (t-test) และทดสอบค่าเอฟ (F-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และ ค่าสหสัมพันธ์ (Pearson’s Product Moment Correlations)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. กลุ่มตัวอย่าง มีข้อมูลทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ ๓๑ – ๔๐ ปี มีสถานภาพโสด มีระดับการศึกษา ปริญญาตรี มีรายได้ต่อเดือนอยู่ระหว่าง ๑๐,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท มีประสบการณ์ทำงาน ต่ำกว่า ๕ ปี มีบุคลาการประเภท ข้าราชการ เป็นส่วนใหญ่
๒. ระดับปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงาน โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยในระดับมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า มีระดับความสุขในการทำงานในระดับมาก ได้แก่ ด้านการติดต่อสัมพันธ์ ด้านความรักในงาน และด้านความสำเร็จในงาน มีระดับความสุขในการทำงานในระดับปานกลาง ได้แก่ ด้านการเป็นที่ยอมรับ
๓. ระดับความสุขในการทำงานตามหลักอิทธิบาท ๔ โดยภาพรวมค่าเฉลี่ยในระดับ มาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า มีระดับความสุขในการทำงานในระดับมาก ได้แก่ ด้านวิริยะ ด้านจิตตะ ด้านวิมังสา มีค่าเฉลี่ยในระดับปานกลาง ได้แก่ ด้านฉันทะ
๔. ผลการเปรียบเทียบระดับความสุขในการทำงานตามหลักอิทธิบาท ๔ บุคลากรกลุ่มตัวอย่างมีปัจจัยส่วนบุคคลมี เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือน ประสบการณ์ทำงานประเภทบุคลากรแตกต่างกัน มีระดับความสุขในการทำงานตามหลักอิทธิบาท ๔ ไม่แตกต่างกัน ด้านฉันทะ บุคลากรกลุ่มตัวอย่าง มีสถานภาพ ระดับการศึกษา และรายได้ต่อเดือนแตกต่างกัน มีระดับความสุขในการทำงานตามหลักอิทธิบาท ๔ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ ด้านวิริยะ มีอายุ รายได้ต่อเดือน ประสบการณ์ทำงาน และประเภทบุคลากรแตกต่างกัน มีระดับความสุขในการทำงานตามหลักอิทธิบาท ๔ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ บุคลากรกลุ่มตัวอย่าง มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีระดับความสุขในการทำงานตามหลักอิทธิบาท ๔ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ด้านจิตตะ บุคลากรกลุ่มตัวอย่าง มีอายุ ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือน ประสบการณ์ทำงาน และประเภทบุคลากรแตกต่างกัน มีระดับความสุขในการทำงานตามหลักอิทธิบาท ๔ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ ด้านวิมังสา บุคลากรกลุ่มตัวอย่าง มีอายุ รายได้ต่อเดือน ประสบการณ์ทำงาน และประเภทบุคลากรแตกต่างกัน มีระดับความสุขในการทำงานตามหลักอิทธิบาท ๔ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ บุคลากรกลุ่มตัวอย่าง มีสถานภาพ และระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีระดับความสุขในการทำงานตามหลักอิทธิบาท ๔ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
๕. ความสัมพันธ์ระหว่าง ปัจจัยที่มีผลต่อความสุขในการทำงานและความสุขในการทำงานและหลักอิทธิบาท ๔ ของบุคคลกรโดยรวมและแต่ละด้าน ทุกคู่ มีความสัมพันธ์เชิงบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑
ดาวน์โหลด
|