บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ เรื่อง “ผลการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมโดยใช้หลัก พุทธโภชนศาสตร์ต่อผู้ป่วยเรื้อรัง ที่ชมรมแพทย์แผนโบราณวัดบางกร่าง อำเภอ เมือง นนทบุรี” นี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง และวิจัยเชิงคุณภาพ วัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาออกแบบชุดกิจกรรมหลักพุทธโภชนศาสตร์ในการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังแบบองค์รวม ที่ชมรมแพทย์แผนโบราณ วัดบางกร่าง นนทบุรี (๒) เพื่อศึกษาประสิทธิ์ผลชุดกิจกรรมหลักพุทธโภชนศาสตร์ในการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังแบบองค์รวมที่ชมรมแพทย์แผนโบราณ วัดบางกร่าง นนทบุรี (๓) เพื่อนำผลชุดกิจกรรมหลักพุทธโภชนศาสตร์ในการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังแบบองค์รวมที่ชมรมแพทย์แผนโบราณ วัดบางกร่าง นนทบุรี กลุ่มตัวอย่างประชากรประกอบด้วยผู้เข้ารับการรักษาและสมาชิกที่ชมรมแพทย์แผนโบราณ วัดบางกร่าง อำเภอเมือง นนทบุรี ปีพ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๓๗ คน โดยสมัครใจและใช้เกณท์สุ่มอย่างง่ายไว้ทดลอง ๒๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในการทำวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบ่งเป็น ๔ ส่วน คือข้อมูลพื้นฐาน แบบประเมินในชุดกิจกรรมศีลด้วยข้อคำถาม ๑๕ ข้อ ชุดกิจกรรมสมาธิด้วยข้อคำถาม ๑๕ ข้อ ชุดกิจกรรมปัญญา ด้วยข้อคำถาม ๑๕ ข้อ และแบบสัมภาษณ์ผู้ป่วยเรื้อรัง เกี่ยวกับความความรู้สึกในด้านกายและใจตามแบบสุขภาพองค์ด้วยหลักพุทธโภชนศาสตร์ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการค้นคว้าตำรา เอกสาร และงานวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้องกับหลักพุทธโภชนศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติพรรณนา โดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เพื่ออธิบายข้อมูลทั่วไป ใช้สถิติอ้างอิง ในวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรม ทั้งก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมพุทธโภชนศาสตร์ เพื่อนำไปพัฒนาจิต โดยสถิติ แบบ Paired test
ผลการวิจัยพบว่า
เมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการทดลองใช้ ชุดกิจกรรมศีลพบว่า มีความตระหนักรู้ว่าอาหารสมุนไพรมีสรรพคุณเป็นยาเป็นลำดับที่๑ ด้านพฤติกรรมเรื่องอิริยาบถที่ไม่เสมอ กลั้นอุจจาระและปัสสาวะมีผลทำให้เจ็บป่วยเป็นลำดับที่๒ ส่วนของอารมณ์ที่โกรธก็เป็นสาเหตุทำให้ป่วยไข้ได้เช่นกันเป็นลำดับที่๓ ชุดสมาธิการเดินให้ช้าลงทำให้มีสมาธิเป็นลำดับที่๑ การกำหนดก้าวเดินทำให้เดินช้าลงเป็นลำดับที่๒ และการเดินช้าลงทำให้มีการปรับสมดุลโครงสร้างร่างกายเป็นลำดับที่๓ ด้านปัญญา การแผ่เมตตาทำให้เป็นสุข การสวดมนต์ทำให้ผ่อนคลาย เป็นลำดับที่๑ การมีสติในการพิจารณาตัวอักษรและความหมายเป็นลำดับที่๒ ท่านเข้าใจถึงเหตุแห่งการเจ็บป่วยมาจากความไม่พอดีเป็นลำดับที่๓ และพบว่า ชุดกิจกรรมทั้ง ๓ มีผลของคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นทุกกิจกรรม
ในการสัมภาษณ์เกี่ยวกับผลการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมโดยใช้หลัก พุทธโภชนศาสตร์ต่อผู้ป่วยเรื้อรังที่ชมรมแพทย์แผนโบราณวัดบางกร่าง อำเภอ เมือง นนทบุรี จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้ป่วย ร่วมกับการสังเกตสีหน้า แววตา การรับรู้ ผิวพรรณ ของผู้ป่วย พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่หลังร่วมกิจกรรมมีด้านกาย อาการทางกายดีขึ้น ด้านจิตใจและอารมณ์รู้สึกสงบ มีสมาธิ เข้าใจเรื่องธรรมชาติในอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ด้านสังคมรู้สึกการถึงมีส่วนร่วมในกิจกรรม การเอื้อเฟื้อต่อกลุ่ม การอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวและสังคมที่ดีขึ้น
ดาวน์โหลด
|