บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาจิตแนวพุทธของพยาบาลวิชาชีพคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ๒) เพื่อติดตามการให้บริการแบบองค์ รวมแนวพุทธของพยาบาลวิชาชีพ ได้ดำเนินการวิจัยโดยวิธีเชิงสำรวจ (Survey Research) ซึ่งเป็นวิธี การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ พยาบาลวิชาชีพที่ ได้รับการฝึกอบรมจากกลุ่มพระอาสาคิลานธรรม จำนวน ๘๗๕ คน โดยขนาดของกลุ่มตัวอย่างได้มาจากการคำนวณตามสูตร Taro Yamane ได้ขนาดตัวอย่าง 275 คน มีการสุ่มอาสาสมัครจาก แผนกต่าง ๆ ของโรงพยาบาลรวมทั้งหมด 46 หน่วย (Wards) ใช้แบบสอบถามจำนวน 275 ชุด โดยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง ประกอบด้วย ๓ ส่วน ๑) ข้อมูลทั่วไปในด้านปัจจัยส่วนบุคคล ๒) ผลการฝึกอบรมคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับการใช้หลักธรรมพรหมวิหาร 4 และการใช้หลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ และ ๓) แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั่วไป เก็บรวบรวมข้อมูลและ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ โดยหาค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าร้อยละ (Percentage) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation: S.D.) แล้วทำการทดสอบสมมติฐาน โดยการทดสอบค่าที (t-test) และทดสอบค่าเอฟ (F-test) หรือวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) สำหรับตัวแปรที่มี ๓ ค่าขึ้นไป เมื่อพบว่า มีความแตกต่างจะทำการเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ โดยวิธีหา ผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference: LSD) จากผลการวิจัยสรุปได้ว่า
๑. ผลการฝึกอบรมคุณธรรมจริยธรรมของพยาบาลวิชาชีพ พบว่า การพัฒนาจิตแนวพุทธมีการนำหลักพรหมวิหาร ๔ มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= ๔.๐๑, S.D. = ๐.๓๒) และเมื่อพิจารณาในรายด้านก็อยู่ในระดับมากทั้ง ๔ ด้าน โดยมีค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยตามลำดับดังนี้ คือ ด้านมุทิตา ด้านเมตตา ด้านกรุณา และด้านอุเบกขา
2. ผลการฝึกอบรมคุณธรรมจริยธรรมของพยาบาลวิชาชีพ พบว่า การติดตามการให้บริการแบบองค์รวมแนวพุทธมีการนำหลักสังคหวัตถุ ๔ มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= ๔.๐๖, S.D. = ๐.๓๓) และเมื่อพิจารณาในรายด้านก็อยู่ใน ระดับมากทั้ง ๔ ด้าน โดยมีค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยตามลำดับดังนี้ คือ ด้านสมานัตตตา ด้านปิยวาจา ด้านอัตถจริยา และด้านทาน
3. การวิเคราะห์โดยเปรียบเทียบกับปัจจัยส่วนบุคคลและจำนวนครั้งที่ได้เข้ารับการฝึกอบรมจากกลุ่มพระภิกษุอาสาคิลานธรรม พบว่า มีผลต่อระดับการนำหลักพรหมวิหาร ๔ และ สังคหวัตถุ ๔ ที่พยาบาลวิชาชีพได้นำไปใช้ในการดูแลผู้ป่วย ดังนี้ คือ
3.๑ ปัจจัยส่วนบุคคลที่ต่างกัน (จำแนกตามเพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษาประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และสถานที่ปฏิบัติงาน / แผนก) มีการนำหลักพรหมวิหาร ๔ และ หลักสังคหวัตถุ ๔ ไปใช้ในการดูแลผู้ป่วย พิจารณาโดยภาพรวมและรายด้าน พบว่า ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ยกเว้น ระดับการศึกษามีการนำหลักพรหมวิหาร ๔ ไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยต่างกัน กับในส่วนของสถานภาพและระดับการศึกษาซึ่งมีการนำหลักสังคหวัตถุ ๔ ไปใช้ในการดูแลผู้ป่วย ได้แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3.2 จำนวนครั้งการเข้าฝึกอบรมต่างกัน มีการนำหลักพรหมวิหาร ๔ และหลักสังคหวัตถุ ๔ ไปใช้ในการดูแลผู้ป่วย พิจารณาโดยภาพรวมและรายด้าน พบว่า ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
ดาวน์โหลด
|