บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาระดับการบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารวิทยาลัย สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช ๒) เพื่อเปรียบเทียบระดับการบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารวิทยาลัยสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีเพศ อายุ ขนาดวิทยาลัยและประสบการณ์ในการสอนต่างกัน ๓) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมการบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารวิทยาลัย สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา ได้แก่ ครูที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแผนกและหัวหน้างานสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน ๑๘๖ คน โดยการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางของ Krejcie และ Mogan เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามประเภทคำถามปลายปิด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน, สถิติที (t–test), ค่า F–test และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างเป็นสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD.)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. การบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารวิทยาลัยสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยรวมทั้ง ๕ ด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงจากมากไปหาน้อย ด้านการออกจากราชการ ด้านวินัยและการรักษาวินัย ด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ด้านการวางแผนกำลังและการกำหนดตำแหน่ง ด้านการสรรหาและการบรรจุแต่งตั้ง
๒. ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารวิทยาลัย สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่าเพศและขนาดวิทยาลันต่างกัน มีการบริหารงานบุคคลตามหลัก ธรรมาภิบาล แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ส่วนอายุและประสบการณ์ที่ต่างกันไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
๓. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารวิทยาลัยสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า ด้านที่มีความถี่มากที่สุด คือ ด้านการวางแผนกำลังและการกำหนดตำแหน่ง กล่าวคือ การสำรวจอัตรากำลังที่มีอยู่ในปัจจุบันวางแผนขออัตรากำลังในอนาคต การกำหนดนโยบายระเบียบหลักเกณฑ์การบริหารงานบุคคลที่ถูกต้องและชัดเจนและการทำงานตามคุณวุฒิ
ดาวน์โหลด |