บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) ศึกษาการใช้หลักสาราณียธรรมในการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดเทศบาลนครยะลา (๒) เพื่อเปรียบเทียบการใช้หลัก สาราณียธรรมในการบริหารสถานศึกษา ของโรงเรียนสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครยะลา จำแนกตามเพศ ระดับการศึกษา และประสบการณ์ในการทำงานและ (๓) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะในการใช้หลักสาราณียธรรมในการบริหารสถานศึกษาสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครยะลาการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็น งานวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ประชากร ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารและครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเทศบาลนครยะลา ปีการศึกษา ๒๕๕๘ กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) โดยสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) สุ่มอย่างง่าย ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ๑๗๕ คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และ F - test
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ผู้บริหารและครูใช้หลักสาราณียธรรมในการบริหารสถานศึกษา สังกัดเทศบาลนครยะลาโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มีการใช้หลักสาราณียธรรมอยู่ในระดับปานกลางทุกด้านเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยคือด้านสาธารณโภคีเมตตาวจีกรรมเมตตากายกรรมสีลสามัญญตเมตตามโนกรรม และด้านทิฏฐิสามัญญตา
๒. ผลการเปรียบเทียบการใช้หลักสาราณียธรรมในการบริหารสถานศึกษา สังกัดเทศบาลนครยะลาพบว่าผู้บริหารและครูที่มีเพศต่างกันมีการใช้หลักสาราณียธรรมในการบริหารสถานศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.๐๕ ส่วนผู้บริหารและครูที่มี ระดับการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน แตกต่างกันมีการใช้หลัก สาราณียธรรมไม่แตกต่างกัน
๓. แนวทางในการส่งเสริมใช้หลักสาราณียธรรมในการบริหารสถานศึกษา สังกัดเทศบาลนครยะลา พบว่า ที่มีข้อเสนอแนะมากที่สุด คือ ด้านสาธารณโภคี ในประเด็นควรมีสวัสดิการในโรงเรียนให้ดีมากขึ้น และด้านทิฏฐิสามัญญตา ในประเด็นการทำงานเป็นทีม
ดาวน์โหลด
|