บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรมของผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช ๒) เพื่อเปรียบเทียบภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรมของผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช และ ๓) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะแนวทางส่งเสริมภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรม ของผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรที่ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหาร ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน ๑๐๓ รูป/คน โดยการเปิดตารางของเครซี่ และมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test ค่า F-test เมื่อพบความแตกต่างจะทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่ ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD)
ผลการวิจัยพบว่า
๑) ภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรมของผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนก สามัญศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านในระดับมากทุกด้าน โดยภาวะผู้นำแบบมุ่งสัมพันธ์สูงกว่าภาวะผู้นำแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์
๒) ผลการเปรียบเทียบภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรมของผู้บริหารโรงเรียน พระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มี สถานภาพ วุฒิการศึกษา ตำแหน่ง และประสบการณ์ในการทำงาน ต่างกัน พบว่า โดยรวมไม่แตกต่างกันย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .๐๕
๓) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับภาวะผู้นำตามหลักพรหมวิหารธรรมของผู้บริหารโรงเรียน พระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาวะผู้นำแบบมุ่งสัมพันธ์ คือ มุ่งปฏิสัมพันธ์ไปที่คนหรือผู้ใต้บังคับบัญชา ภาวะผู้นำแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ คือ มุ่งไปที่ผลสำเร็จของงาน โดยมองดูไปที่สถานการณ์โดยใช้หลักอุเบกขาธรรมเป็นตัวกรองสถานการณ์
ดาวน์โหลด
|