บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑) เพื่อศึกษาสภาพการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการบริหารการศึกษาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเนินศาลา อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการบริหารการศึกษาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเนินศาลาตามหลักสาราณียธรรม ๖ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ ๓) เพื่อเสนอแนะในการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการบริหารการศึกษาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเนินศาลาตามหลักสาราณียธรรม ๖ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ โดยศึกษากับกลุ่มตัวอย่างจำนวน ๑๗๗ คน ได้แก่ ผู้บริหาร ๕ คน คณะกรรมการศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๙ คน ครู ๓ คน ผู้ปกครอง ๗๗ คน และชุมชน ๘๓ คน ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ (survey research) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม และสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบโดยการทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที (F-test ) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA ) เมื่อพบว่ามีความแตกต่างกันจึงทำการเปรียบเทียบรายคู่โดยมีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด ( Least Significant Difference : LSD ) และสรุปข้อมูลปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ โดยวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้
ผลการวิจัย พบว่า
๑) สภาพการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการบริหารการศึกษาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเนินศาลา อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ในภาพรวม พบว่า การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการบริหารการศึกษาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเนินศาลาตามหลักสาราณียธรรม ๖ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อที่ระดับมากที่สุด พบว่า ด้านการสื่อสานกับผู้ปกครองโดยผ่านสมุดบันทึกเกี่ยวกับเด็ก ตามหลักสาราณียธรรม ๖ ซึ่งอยู่ในระดับมาก รองลงมาด้านการพบปะสนทนาพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันตามหลักสาราณียธรรม ๖ รองลงมาด้านการเข้าร่วมประชุม ครู-ผู้ปกครอง ตามหลักสาราณียธรรม ๖ รองลงมาด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผลเด็กโดยผ่านแฟ้มผลงาน (Portfolios) ตามหลักสาราณียธรรม ๖ ซึ่งอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อที่ระดับน้อยที่สุด พบว่าด้านการเข้าร่วมในการกำหนดนโยบายหรือหลักสูตรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตามหลักสาราณียธรรม ๖ รองลงมาด้านการเข้าร่วมในการจัดกิจกรรมต่างๆในชั้นเรียนของเด็กตามหลักสาราณียธรรม ๖ ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง
๒) เปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการบริหารการศึกษาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเนินศาลาตามหลักสาราณียธรรม ๖ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ โดยจำแนกตามอายุ วุฒิการศึกษา อาชีพ และรายได้ต่อเดือน ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงปฎิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓) เสนอแนะในการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการบริหารการศึกษาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเนินศาลาตามหลักสาราณียธรรม ๖ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ๑) ควรรณรงค์หรือทำเป็นแผ่นพับแจกผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รับรู้รับทราบข่าวสารเรื่องราวต่างๆ ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๒) พูดจาไพเราะ ไม่เลือกปฏิบัติ และทำอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เป็นการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ๓) ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมประชุมรับทราบความเป็นไปของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๔) ในการทำงานร่วมกันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรทำความดีต่อกัน ช่วยเหลือกัน กล่าววาจาสุภาพ มีเหตุผล คิดดีทำดี ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น มีความเสียสละ มีความรับผิดชอบตรงต่อเวลา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ดาวน์โหลด
|