บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาการบริหารโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสัปปายะ ๗ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๒) เพื่อเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่มีต่อการบริหารโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตามหลักสัปปายะ ๗ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะแนวทางการบริหารโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตามหลักสัปปายะ ๗ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัวแปรต้น ได้แก่ เพศ อายุ ระดับชั้นการเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ จำนวน ๒๗๘ คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้น และมีค่าความเชื่อมั่นที่ระดับ ๐.๙๕ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percent) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การทดสอบค่าที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One–way ANOVA) และการทดสอบเป็นรายคู่โดยวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe’ post hoc comparison)
ผลการวิจัย พบว่า
๑. ระดับความคิดเห็นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่มีต่อการบริหารโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตามหลักสัปปายะ ๗ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้ง ๗ ด้าน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า คะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมากทุกด้าน
๒. ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า นักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่มีเพศ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตามหลักสัปปายะ ๗ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่แตกต่างกัน มีนัยสำคัญทางสถิติ ๐.๐๕ ซึ่งไม่เป็นไปสมมติฐานที่ตั้งไว้ ในส่วนของ อายุ ระดับชั้นการเรียน พบว่า แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
๓. ข้อเสนอแนะแนวทางการบริหารโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตามหลักสัปปายะ ๗ พบว่า อาคารอบรมควรมีการแยกออกจากอาคารที่เรียนหนังสือ เป็นเอกเทศ ควรจัดเส้นทางเดินที่หลีกเลี่ยงอาคารเรียน จัดเวลาในการบรรยายให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่บรรยายเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหาที่บรรยาย และควรนำเสนอหลักธรรมที่มีตัวอย่าง ฟังแล้วเข้าใจง่าย วิทยากรควรพูดให้กระชับในเนื้อหาที่สอน ควรมีร้านค้าให้ผู้เข้าอบรมได้เลือกซื้อรับประทานอาหารว่างบ้าง ควรมีการปลูกต้นไม้เพิ่มเพื่อความร่มรื่นและควรมีการฉีดยากันยุงในบริเวณที่พัก ควรเพิ่มเวลาพักผ่อนเพื่อความผ่อนคลายของอิริยาบถ และควรให้เข้านอนเร็วขึ้น ตื่นเช้าขึ้นมาจะได้สดชื่น
ดาวน์โหลด
|