บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้๑)เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้หลักมนุษย์สัมพันธ์เชิงพุทธ ในการบริหารงานบุคคลโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต๔๒๒) เพื่อเสนอแนะแนวทางการประยุกต์ใช้หลักมนุษย์สัมพันธ์ตามหลักมนุษย์สัมพันธ์เชิงพุทธ ในการบริหารงานบุคคลโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒การศึกษาครั้งนี้เป็นการใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญประชากรได้แก่บุคคลากรทางการศึกษาซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารครูผู้สอนจำนวน๗แห่งได้แก่๑)โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม๒)โรงเรียนบ้านแก่งชัชวลิตวิทยา๓)โรงเรียนชุมแสงชนูทิศ๔)โรงเรียนทับกฤชพัฒนา๕)โรงเรียนเก้าเลี้ยววิทยา๖)โรงเรียนพระบางวิทยา๗)โรงเรียนหัวดงราชพรหมาภรณ์จำนวนประชากรทั้งสิ้น๓๖๒คนเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามได้แก่ค่าร้อยละค่าเฉลี่ยค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
๑)การประยุกต์ใช้หลักมนุษย์สัมพันธ์เชิงพุทธ ในการบริหารงานบุคคลโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต๔๒ทั้งหมด๔ ด้าน คือ ด้านทาน ด้านปิยวาจา ด้านด้านอัตถจริยา ด้านสมานัตตตาโดยมีระดับความคิดเห็นในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านอัตถจริยา รองลงมาคือด้านปิยวาจาด้านสมานัตตตาด้านทานตามลำดับ
๒) แนวทางการประยุกต์ใช้หลักมนุษย์สัมพันธ์ตามหลักมนุษย์สัมพันธ์เชิงพุทธ ในการบริหารงานบุคคลโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ด้านทานผู้บริหารต้องให้รางวัลแก่บุคลากรตามโอกาสอันควรและผู้บริหารจัดระบบสวัสดิการที่เหมาะสมแก่บุคลากรด้านปิยวาจาผู้บริหารควรให้คำแนะนำในการวางแผนอัตรากำลังคนให้เหมาะสมกับงานและผู้บริหารควรให้คำปรึกษาในการจัดบุคลากรเข้าปฏิบัติงานด้วยความยุติธรรมด้านอัตถจริยา ผู้บริหารควรดูแลเอาใจใส่ทุกข์สุขของบุคลากรและผู้บริหารมีการพัฒนาการทำงานของตนเองอย่างสม่ำเสมอด้านสมานัตตตาผู้บริหารควรปฏิบัติตนอยู่กฎระเบียบขององค์การอย่างเคร่งครัดและควรยินดีเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
ดาวน์โหลด |