บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ (๑) เพื่อศึกษาแนวทางการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสภาทนายความ (๒) เพื่อศึกษาแนวทางการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามหลักการทางพระพุทธศาสนา (๓) เพื่อเปรียบเทียบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสภาทนายความกับหลักพุทธสันติวิธี
ผลการศึกษาพบว่า
๑) การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสภาทนายความ: มีการควบคุมทนายความผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยใช้จรรยาบรรณของทนายความผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งประกอบด้วยหลักดังต่อไปนี้ คือ ต้องทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ไม่มีอคติต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ให้ความเป็นธรรมต่อคู่พิพาทเสมอกัน เก็บรักษาข้อเท็จจริงที่ได้จากการไกล่เกลี่ยเป็นความลับ ห้ามมิให้รับเป็นทนายความ หรืออนุญาโตตุลาการให้แก่คู่พิพาทในคดีที่ตนเองรับหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในคดีแล้ว ให้คำแนะนำชี้แจงข้อดีข้อเสียให้คู่พิพาทรับทราบ ประพฤติอยู่ในกรอบจริยธรรมและมรรยาททนายความตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. ๒๕๒๙ สำหรับคุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต้องเป็นทนายความมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี และมีอายุไม่ต่ำกว่า ๓๕ ปีและไม่เคยต้องโทษฐานประพฤติผิดมรรยาททนายความหรือไม่อยู่ระหว่างการถูกสอบสวนในข้อหาว่าประพฤติผิดมรรยาททนายความ ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี ไม่เป็นผู้กระทำการใดซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์สุจริต และผ่านการฝึกอมรมตามหลักเกณฑ์ที่สภาทนายความกำหนด
๒) การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามหลักพุทธสันติวิธี: หลักพุทธสันติวิธีคือหลักธรรมที่สามารถนำมาใช้ในกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้คือ มีเมตตาต่อกัน ลดอคติที่มีต่อกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน และมีสัมมาวาจาต่อกัน ส่วนคุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามหลักพุทธสันติวิธีคือหลัก กัลยาณมิตรธรรม
๓) ผลการเปรียบเทียบกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสภาทนายความกับหลักพุทธสันติวิธี: มีความสอดคล้องกันทั้งทางด้านเนื้อหาและแนวทางปฏิบัติ โดยพบว่าระเบียบศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสภาทนายความว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยเฉพาะส่วนของกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและคุณสมบัติของทนายความผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ไม่มีส่วนใดที่ขัดแย้งกับหลักพุทธสันติวิธี และจากการสัมภาษณ์ผู้อำนวยการศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสภาทนายความ หัวหน้าสำนักงานสภาทนายความ และทนายความผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทรวมทั้งหมด ๙ ท่าน พบว่าแนวคิด และแนวทางการปฏิบัติของทุกท่านเป็นไปตามหลักการของพุทธสันติวิธี
โดยสรุปแล้ว ในการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทควรมีการนำหลักพุทธสันติวิธีมาประกอบ โดยเฉพาะหลัก กัลยาณมิตรธรรม นั้น ควรนำมาใช้ประกอบเป็นคุณสมบัติของตัวผู้ดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และในการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทควรเป็นไปด้วยความเมตตา ไม่มีอคติและให้อภัยต่อกัน รวมถึงการมีสัมมาวาจาต่อกัน โดยเฉพาะตัวผู้ดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทควรต้องมีและใช้หลักธรรมเหล่านี้เพื่อควบคุมกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ดาวน์โหลด |