บทคัดย่อ
ดุษฎีนิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ (๑) เพื่อศึกษาการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ (๒) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรม ที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ (๓) เพื่อบูรณาการการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจด้วยหลักพุทธธรรมที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ
ผลการวิจัยพบว่า การส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ หมายถึงการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับปรุง เกื้อหนุน ช่วยเหลือสนับสนุนให้การปฏิบัติงาน ด้านต่างๆ ดีขึ้น โดยมีการส่งเสริมประสิทธิภาพด้านบริหารจัดการ การส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ การส่งเสริมประสิทธิภาพด้านการให้บริการ การส่งเสริมประสิทธิภาพด้านจริยธรรม ส่วนปัญหาจากการส่งเสริมประสิทธิภาพ คือ ปัญหาการละเลยการใช้ระบบคุณธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ ปัญหาการขาดจิตสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ ปัญหาเรื่องการให้บริการประชาชน ปัญหาเรื่องพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจ
หลักพุทธธรรมที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ แบ่งออกเป็น (๑) หลักพรหมวิหาร ๔ คือ ๑. มีเมตตาตอเพื่อนร่วมงาน ๒. มีกรุณา ความสงสาร ที่จะชวยเหลือแก้ไขปัญหาผู้อื่น ๓. มีมุทิตา ความชื่นชมยินดีในความสําเร็จของบุคคลอื่น ๔. มีอุเบกขา ความวางใจเปนกลาง ไม่มีความลำเอียง (๒) หลักอิทธิบาท ๔ คือ ๑. ฉันทะ ความพอใจในการทำงาน ๒.วิริยะ ความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงาน ๓. จิตตะ มีใจจดจ่อรับผิดชอบในการทำงาน ๔. วิมังสา มีการทบทวนในการทำงาน เพื่อปรับปรุงปรับแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น (๓) หลักสังคหวัตถุ ๔ คือ ๑. ทาน การให้เพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่น ๒. ปิยวาจา กล่าวคำพูดที่สุภาพ ๓. อัตถจริยา การประพฤติ ให้เป็นประโยชน์ทั้งฝ่ายตนเองและคนอื่น ๔. สมานัตตตา การปฏิบัติตนสม่ำเสมอกัน ในบุคคลทั้งหลาย (๔) หลักพละ ๕ คือ ๑. ศรัทธาพละ การเชื่อในการทำความดี เป็นกำลังควบคุมความสงสัย ๒. วิริยะพละ การเพียรทำงานและเพียรทำความดีเป็นกำลังในการขจัดความเกียจคร้าน ๓. สติพละ มีสติควบคุมอารมณ์และเป็นกำลังในการขจัดความประมาท การไม่ใส่ใจ ใจลอย ไร้สติ ๔. สมาธิพละ การมีสมาธิในการปฏิบัติหน้าที่ความตั้งใจมั่น เป็นกำลังในการขจัดความวอกแวก ไขว้เขว ฟุ้งซ่าน ๕. ปัญญาพละ มีความรอบรู้ เป็นกำลังขจัดความเพิกเฉย และหลงงมงาย
บูรณาการการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจด้วยหลักพุทธธรรมที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ แบ่งออกเป็น ๑. หลักพรหมวิหาร ๔ คือ ข้าราชการตำรวจควรมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมงาน มีความสงสารคิดชวยเหลือใหพนจากทุกข์ มีความยินดีในความสําเร็จของบุคคลอื่นและวางใจเปนกลาง มีจิตเที่ยงธรรม ๒.หลักอิทธิบาท ๔ คือ ข้าราชการตำรวจควรมีความพอใจในการปฏิบัติหน้าที่ มีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงาน มีใจที่จดจ่อและรับผิดชอบในการทำงาน และมีการทบทวนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ๓. หลักสังคหวัตถุ ๔ คือ ข้าราชการตำรวจมีการให้ เอื้อเฟอเผื่อแผต่อเพื่อนรวมงาน กล่าวคำสุภาพไพเราะ มีการประพฤติเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่ายและการทำตนเสมอต้นเสมอปลาย ๔. หลักพละ ๕ คือ ข้าราชการตำรวจมีความศรัทธาในความดี เชื่อว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว มีวิริยะอุตสาห์ในการปฏิบัติหน้าที่และเพียรทำความดี มีสติควบคุมเมื่อมีอารมณ์ไม่ปรารถนามากระทบและสกัดกั้นกิเลส มีสมาธิในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ฟุ้งซ่านไขว้เขว มีความรอบรู้ในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่หลงงมงาย เมื่อข้าราชการตำรวจนำหลักธรรมทั้ง ๔ หมวดมาบูรณาการใช้ในการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจจะทำให้การส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจนั้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ดาวน์โหลด
|