หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » สุพัตรา ไฉนนุช
 
เข้าชม : ๒๑๐๔๔ ครั้ง
การประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุธรรมเพื่อสร้างความผูกพันต่อองค์กรของ พนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ (รัฐประศาสนศาสตร์)
ชื่อผู้วิจัย : สุพัตรา ไฉนนุช ข้อมูลวันที่ : ๐๒/๐๒/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  สุรพล สุยะพรหม
  พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาระดับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ๒) เพื่อเปรียบเทียบระดับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลและ ๓) เพื่อศึกษาปัญหา  อุปสรรค  และแนวทางในการประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ ธรรม ต่อการสร้างความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์

ดำเนินการวิจัยโดยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Method Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research)  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ประชาชน ในพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน  ๑๘๐ คน จากพนักงานทั้งหมดจำนวน ๓๒๔ คน โดยใช้สูตรทาโร่ยามาเน่  (Taro  Yamane)  เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม โดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ๐.๗๖๓ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ (Frequencies) ค่าร้อยละ (Percentage)ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) และทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่า (t-test)  และการทดสอบค่าเอฟ (F-test) ด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference: LSD.) และนำเสนอเป็นความเรียงประกอบตาราง โดยการแจกแจงความถี่ของผู้ตอบคำถามปลายเปิด และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative.Research) โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth.Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ  (Key Informants) จำนวน ๗ ท่าน โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท

ผลการวิจัยพบว่า

 

๑) ความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน องค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยภาพรวมอยู่ระดับปานกลาง( =๒.๐๕, S.D=๐.๗๑)เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน องค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ด้านการผูกพันต่อองค์การสร้างระบบการสื่อสารที่ดีมีระดับสูงสุด (  =๒.๕๑, S.D=๐.๖๔) รองลงมา คือ ด้านการผูกพันต่อองค์การช่วยแก้ไขหรือลดความขัดแย้ง  ( =๒.๓๗, S.D.=๐.๗๑ ) รองลงมา ด้านการผูกพันต่อองค์การก่อให้เกิดความไว้วางใจกัน ( =๒.๐๔, S.D=๐.๔๗) รองลงมา คือ การผูกพันต่อองค์การช่วยแก้ไขหรือลดความขัดแย้ง ( =๑.๙๙, S.D.=๐.๔๒) รองลงมา คือ ด้านการผูกพันต่อองค์การจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น( =๑.๙๒, S.D=๐.๒๘) และ อันดับสุดท้าย คือ การผูกพันต่อองค์การจะขจัดการป้องกันตนเอง การผูกพันต่อองค์การจะลดความเห็นแก่ตัวลง( =๑.๔๖, S.D=๐.๑๗)

๒) ผลการเปรียบเทียบความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน องค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล โดยภาพรวมพบว่า บุคลากรที่มี อายุ ระดับการศึกษา รายได้และอายุราชการ ไม่แตกต่างกันจึงปฏิเสธสมมติฐาน  ส่วนพนักงานมี เพศต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงปฏิเสธสมติฐานการวิจัย

๓) ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน องค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า ปัญหาและอุปสรรค คือ พนักงานในองค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ไม่เข้าใจในการประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุธรรม  เพื่อสร้างความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานส่วนองค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรีไม่มีการนำหลักสังคหวัตถุธรรม มาใช้ในการสร้างผูกพันต่อองค์การช่วยแก้ไขหรือลดความขัดแย้งองค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรีไม่มีการอบรมหลักสังคหวัตถุธรรม ในกับพนักงาน ข้อเสนอแนะ พบว่า องค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรีควรนำหลักสังคหวัตถุ ธรรมมาส่งเสริมในการสร้างการผูกพันต่อองค์การจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นองค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอพยุหะคีรีควรนำหลักสังคหวัตถุธรรม มาส่งเสริมในการสร้างผูกพันต่อองค์การช่วยแก้ไขหรือลดความขัดแย้งควรส่งเสริมให้พนักงานเข้าใจในประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ ธรรม  เพื่อสร้างความผูกพันต่อองค์การบริหารส่วนตำบล

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕