หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระครูสังฆรักษ์มนตรี ถาวโร (ศรีนอก)
 
เข้าชม : ๑๙๙๖๗ ครั้ง
การบริหารงานตามหลักสุจริต ๓ ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ(รัฐประศาสนศาสตร์)
ชื่อผู้วิจัย : พระครูสังฆรักษ์มนตรี ถาวโร (ศรีนอก) ข้อมูลวันที่ : ๐๒/๐๒/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหาสำราญ กมฺมสุทฺโธ
  ชาญชัย ฮวดศรี
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๒ มกราคม ๒๕๕๘
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

             การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑.เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ  จังหวัดชัยภูมิ . เพื่อศึกษาการบริหารงานตามหลักสุจริต ๓ ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ  จังหวัดชัยภูมิ  .  เพื่อเปรียบเทียบการบริหารงานตามหลักสุจริต ๓ ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแก้งคร้อ  อำเภอแก้งคร้อ  จังหวัดชัยภูมิ ตามความคิดเห็นของประชาชนที่มีปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกัน ๔. เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารงานตามหลักสุจริต  ๓  ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ  จังหวัดชัยภูมิ

             การศึกษาวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน คือ การวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษากับประชาชนในเขตเทศบาลตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ  จังหวัดชัยภูมิ  ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๓๗๙ คน โดยใช้เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม เสร็จแล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ เพื่อหาค่าความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ โดยรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๕ คน ใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา ประกอบบริบท และประมวลผลเข้าด้วยกัน รวมทั้งใช้แนวคิดจากเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาสนับสนุนในการวิเคราะห์เพื่อให้เห็นภาพรวม

 

 

             ผลการวิจัยพบว่า

             ๑. ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลแก้งคร้อ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุตั้งแต่ ๓๑-๔๐ ปี  มีการศึกษาระดับประถมศึกษา มีอาชีพรับจ้าง มีรายได้ต่อเดือน ระหว่าง ๓,๐๐๑-๕,๐๐๐ บาท

             ๒. ประชาชนมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักสุจริต ๓ ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (  ) = ๓.๙๗  เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักสุจริต ๓ อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเฉลี่ยมากไปหาน้อยตามลำดับ คือ ด้านกายสุจริต (ความประพฤติทางด้านกาย)  ด้านวจีสุจริต (ความประพฤติทางด้านวาจา)  และด้านมโนสุจริต (ความประพฤติทางด้านใจ) ตามลำดับ

๓. ประชาชนที่มีอาชีพ และรายได้ต่อเดือน ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักสุจริต ๓ ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ แตกต่างกัน เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนประชาชนที่มีเพศ, อายุ, และระดับการศึกษา ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานตามหลักสุจริต ๓ ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ไม่แตกต่างกัน  จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้

             ๔. แนวทางในการบริหารงานตามหลักสุจริต ๓ ของผู้บริหารเทศบาลตำบลแก้งคร้อ นั้น

             ด้านกายสุจริต ผู้บริหารบริหารงานโดยกำกับดูแลบุคลากรให้บริการประชาชนได้ทั่วถึงตามทันความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มาปรับใช้ให้เข้ากับการปฏิบัติงานของบุคลากรของเทศบาล โดยการจัดอบรมพัฒนาความสามารถทางด้านกาย เพื่อเป็นการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน มีความประพฤติดีปฏิบัติตามระเบียบของสังคม

 

             ด้านวจีสุจริต ผู้บริหารบริหารงานโดยกำกับดูแลการใช้วาจาที่เป็นจริงไพเราะถูกกาลเทศะ สร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ชุมชนเป็นผู้ประสานสัมพันธ์ภาพ เป็นที่ปรึกษาให้แก่ชุมชน หลีกเลี่ยงคำพูดที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยการให้คำแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความสามัคคี ไม่ให้เกิดความขัดแย้งกันด้วยการประพฤติดีของวาจา

          ด้านมโนสุจริต ผู้บริหารบริหารงานโดยใช้กลยุทธ์กำกับความรับผิดชอบในหน้าที่ดำเนินงานของบุคลากรด้วยความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ การบริหารงานราชการที่มุ่งให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในทางที่ดีต่อการพัฒนาชีวิตของประชาชน การปฏิบัติราชการที่มุ่งเน้นถึงความต้องการและวามพึงพอใจของประชาชนผู้รับบริการเป็นหลัก

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕