บทคัดย่อ
การวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ จังหวัดระยอง ๒) เพื่อเปรียบเทียบทัศนะของคณะกรรมการโครงการ หมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต่อการมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ จังหวัดระยอง โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ การมีส่วนร่วม ของคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ จังหวัดระยอง เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Research Method) โดยใช้ระบบวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ที่เก็บข้อมูล โดยการใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In–depth Interview) ศึกษาวิจัย โดยใช้การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ คณะกรรมการบริหารโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ จังหวัดระยอง ประกอบด้วย เจ้าอาวาส ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน จำนวน ๒๙๐ รูป/คน ซึ่งใช้การสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือ ที่ใช้เป็นแบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการและมาตราส่วนประเมินค่า ๕ ระดับ และแบบสอบถามปลายเปิด ซึ่งผู้ศึกษาสร้างขึ้นเองโดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๙๓๑ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความคิดเห็นโดยใช้ค่า (T-test) และ (F-test) เพื่อทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยสองกลุ่ม และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยตั้งแต่สามกลุ่มขึ้นไป และเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด LSD (Least Significant Difference) โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ความคิดเห็นที่มีต่อการมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของคณะกรรมการจังหวัดระยอง โดยรวม พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง ( = ๓.๑๗, S.D. = ๐.๖๕) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ความคิดเห็นที่มีต่อการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อยดังนี้ ด้านการดำเนินการและการปฏิบัติการ ( = ๓.๓๓, S.D. = ๐.๗๒) ด้านการรับและแบ่งปันผลประโยชน์ ( = ๓.๒๑, S.D. = ๐.๗๙) ด้านการเสนอความคิดเห็น การวางแผนและการตัดสินใจ ( = ๓.๑๑, S.D. = ๐.๗๙) ด้านการติดตามและประเมินผล
( = ๓.๐๑, S.D. = ๐.๘๔) ตามลำดับ
๒. ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นที่มีต่อการมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของคณะกรรมการจังหวัดระยอง จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ด้านเพศ ด้านอาชีพ และรายได้ ที่ต่างกันมีผลทำให้ความคิดเห็นของคณะกรรมการบริหารโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ จังหวัดระยอง ไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ ๐.๖๔๐, ๐.๑๘๙ และ ๐.๗๙๐ ตามลำดับ ซึ่งปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนด้านอายุ และระดับการศึกษา ที่ต่างกัน มีผลทำให้ความคิดเห็น ของคณะกรรมการบริหารโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ จังหวัดระยอง แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ ๐.๐๑๒ และ ๐.๐๐๑ ตามลำดับซึ่งยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่มีต่อการมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของคณะกรรมการจังหวัดระยอง ได้แก่ ด้านการเสนอความคิด การวางแผน และการตัดสินใจ พบว่า คณะกรรมการขาดการมีส่วนร่วม เพราะไม่มีเวลา และขาดการประชาสัมพันธ์ ด้านการดำเนินการและการปฏิบัติการ พบว่า ขาดความเข้าใจในการมีส่วนร่วม และในรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินงานกิจกรรมหรือโครงการฯ ด้านการรับและแบ่งปันผลประโยชน์ พบว่า ขาดงบประมาณ ขาดความร่วมแรงร่วมใจ ขาดจิตสำนึกการรักท้องถิ่น และในด้านการติดตาม และประเมินผล พบว่า ขาดความรู้ความเข้าใจในการติดตามประเมินผล และไม่ต่อเนื่อง แนวทางการพัฒนา การมีส่วนร่วมคือ การเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วม ในการดำเนินการ ก่อนที่จะทำโครงการ/กิจกรรมต่างๆ จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร ให้ประชาชนได้รับทราบ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการดำเนินงานและเผยแพร่ข่าวสาร
ดาวน์โหลด
|