บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑ เพื่อศึกษาการประยุกต์หลักอิทธิบาท ๔ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร กองเทคโนโลยีทำแผนที่ กรมที่ดิน ๒ เพื่อเปรียบเทียบการประยุกต์หลักอิทธิบาท ๔ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร กองเทคโนโลยีทำแผนที่ กรมที่ดิน โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ ๓ ศึกษาปัญหาแนวทางการประยุกต์หลักอิทธิบาท ๔ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร กองเทคโนโลยีทำแผนที่ กรมที่ดิน

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณดำเนินการโดยศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน ๑๑๒ คน
ซึ่งเลือกโดยวิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิ จากประชากรซึ่งเป็นบุคลากรของกองเทคโนโลยีทำแผนที่
กรมที่ดิน จำนวน ๑๕๕ คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยการเปิดตารางขนาดกลุ่มตัวอย่างของ
ทาโร่ ยามาเน่ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวมรวมข้อมูล คือแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า
๕ ระดับ ที่ระดับความเชื่อมั่น ๐.๙๖๒ สถิติที่ใช้การในวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว และเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ โดยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด การวิจัยเชิงคุณภาพดำเนินการโดยสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๗ คน ซึ่งเป็นบุคลากร
กองเทคโนโลยีทำแผนที่กรมที่ดิน โดยการเลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาประกอบบริบท

๑) การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ของบุคลากร
กองเทคโนโลยีทำแผนที่ กรมที่ดิน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (  = ๓.๖๒) เมื่อพิจารณาเป็น
รายด้าน ได้แก่ ด้านฉันทะ ด้านวิริยะ ด้านจิตตะ และด้านวิมังสา พบว่า บุคลากรกองเทคโนโลยีทำแผนที่
กรมที่ดิน การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน อยู่ในระดับมากทุกด้าน

๒) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพบุคลากรกองเทคโนโลยีทำแผนที่ กรมที่ดิน
การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และรายได้ต่อเดือน พบว่า บุคลากรที่มีเพศ และระยะเวลาในการปฏิบัติงานแตกต่างกัน มีการประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย ส่วนบุคลากรที่มีอายุ ระดับการศึกษา และ รายได้ต่อเดือน แตกต่างกัน มีการประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน โดยภาพรวมแตกต่างกัน จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย

๓) ปัญหาและอุปสรรคของประสิทธิภาพการประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร กองเทคโนโลยีทำแผนที่ กรมที่ดิน มีดังนี้ ๑) ด้านฉันทะ เวลาในการดำเนินงานไม่เพียงพอ ๒) ด้านวิริยะ บุคลากรขาดความรู้ความสามารถที่ตรงตามสายงาน ๓) ด้านจิตตะ ขาดการประสานงานภายในองค์กร ๔) ด้านวิมังสา ขาดการตรวจสอบแผนงานที่ดำเนินการแล้ว ส่วนข้อเสนอแนะ ได้แก่ ๑) ด้านฉันทะ จัดทำแผนงานให้เป็นระบบ กำหนดระยะเวลาให้เหมาะสมกับงาน ๒) ด้านวิริยะ จัดอบรมบุคลากรและทดสอบความรู้ความสามารถเป็นประจำ
๓) ด้านจิตตะ ประชุมวางแผนงานเป็นประจำเพื่อให้เกิดการประสานงานในองค์กร ๔) ด้านวิมังสา ตรวจสอบติดตามและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ

ดาวน์โหลด