บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้เพื่อ ๑) ศึกษาถึงคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักภาวนา ๔ ของเทศบาลนครระยอง ๒) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้สูงอายุต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ตามหลักภาวนา ๔ ของเทศบาลนครระยอง โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓)เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักภาวนา ๔ ของเทศบาลนครระยอง ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Method Research) โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เป็นหลัก และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) สนับสนุน การวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรได้แก่ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลระยองจำนวน ๓๗๗ คน และเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าความถี่ (Frequency), ค่าร้อยละ (Percentage), ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และทดสอบสมมติด้วยค่าที (t-test) และค่าเอฟ (F-test) และวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA)เพื่อการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยตั้งแต่สามกลุ่มขึ้นไป และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างเป็นสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD.)
ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ กำหนดผู้ให้ข้อมูลหลัก ๘ คน เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลได้แก่แบบสัมภาษณ์เชิงลึกที่มีโครงสร้าง (Structured In-depth Interview) เก็บข้อมูล ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth-Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการพรรณนาความ (Descriptive Interpretation)
ผลการวิจัยพบว่า
๑) การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุของเทศบาลนครระยองด้วยหลักภาวนา ๔ โดยภาพรวม อยู่ในระดับระดับปานกลาง (= ๒.๘๖๗, S.D. = ๑.๐๕๑) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผู้สูงอายุมีความคิดเห็นเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ การพัฒนาด้านปัญญาระดับปานกลาง (=๓.๑๙, S.D. =๑.๐๔๗) การพัฒนาด้านจิตตอยู่ในระดับปานกลาง (= ๒.๘๖, S.D. =๑.๐๐๗) การพัฒนาด้านศีลอยู่ในระดับปานกลาง (= ๒.๘๓, S.D. = ๑.๐๓๖) การพัฒนาด้านร่างกายอยู่ในระดับน้อย (= ๒.๕๗, S.D. = ๑.๑๑๖)
๒) เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้สูงอายุของเทศบาลนครระยองต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักภาวนา ๔ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ, อายุ, ระดับการศึกษา,สถานภาพ, อาชีพ, รายได้ต่อเดือน พบว่าผู้สูงอายุที่มี เพศ, อายุ, ระดับการศึกษา,อาชีพ, รายได้ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักภาวนา ๔ แตกต่างกัน และประชาชนที่มีสถานภาพต่างกันมีความคิดเห็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักภาวนา ๔ ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ ๐.๐๕
๓) ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักภาวนา ๔ ของเทศบาลนคระยอง จังหวัดระยอง พบว่า ด้านกายภาวนา ไม่มีกิจกรรมการส่งเสริมการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ไม่มีบุคลากรเพียงพอในการติดตามดูแลความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ในการแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุยังไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ด้านศีลภาวนา เทศบาลนครระยองการให้ความสำคัญต่อผู้สูงอายุยังน้อยอยู่ ผู้สูงอายุยังมีความว้าเหว่เนื่องจากมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนๆไม่ดีเท่าที่ควร ยังไม่มีการจัดระเบียบวินัยในการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ ด้านจิตตภาวนา ผู้สูงอายุไม่มีความมั่นใจในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมและทำประโยชน์ต่อสังคม ผู้สูงอายุบางรายรู้สึกท้อแท้ในการดำเนินชีวิต หมดกำลังใจในการมีชีวิตที่ยืนยาวต่อไป รายได้ไม่พอเพียงในการดำรงชีวิตและมีความรู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิต ด้านปัญญาภาวนา พบว่าในการจัดสถานที่เพื่อร่วมกันทำกิจกรรมไหว้พระ สวดมนต์ รักษาศีลและ ฝึกสมาธิ ยังน้อยมาก และการจัดกิจกรรมปราชญ์ชาวบ้าน หรือ ภูมิปัญญาชาวบ้านโดยให้ผู้สูงอายุนำประสบการณ์ ทักษะ ความรู้ที่สั่งสมมาตลอดชีวิตถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ของสังคม
ดาวน์โหลด
|