บทคัดย่อ

              การวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อศึกษาระดับความคาดหวังของพระสงฆ์ ต่อภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคาดหวังของพระสงฆ์ ต่อภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความคาดหวังของพระสงฆ์ ต่อภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ พระสงฆ์ทั่วไปในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน ๓๐๒ รูป ซึ่งผู้ศึกษาทำการวิจัยแบบผสม (Mixed Method) โดยใช้ระเบียบวิธีเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)  วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การทดสอบค่าที่เอฟ (f – test) โดยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) การวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis Technique)

              ผลการวิจัย พบว่า

              ๑. พระสงฆ์มีระดับความคาดหวังของพระสงฆ์ ต่อภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๙๑)

              ๒. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบความคาดหวังของพระสงฆ์ ต่อภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยจำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล โดยภาพรวม พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ความรู้นักธรรมที่ต่างกัน มีระดับความคาดหวังของพระสงฆ์ ต่อภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มี อายุ พรรษา ความรู้เปรียญธรรม ความรู้สายสามัญ และตำแหน่งทางคณะสงฆ์ มีระดับความคาดหวังของพระสงฆ์ ต่อภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้

              ๓. ปัญหา อุปสรรคเกี่ยวกับความคาดหวังของพระสงฆ์ ต่อภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า ขาดแผนงานที่เป็นระบบที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ยังไร้ทิศทางในการปฏิบัติงานการจัดการศึกษาของพระภิกษุสามเณร คฤหัสถ์และเด็กเยาวชน ยังไม่สมบูรณ์แบบ ขาดการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมภายในวัดเพื่อเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาแก่ประชาชน ความสนใจและมีบทบาทน้อยมากการในความเป็นผู้นำในการสร้างสาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชนและชุมชน การซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างศาสนสมบัติของวัดและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ควรมุ่งการใช้งานเป็นหลักและควรสร้างให้เหมาะสม ข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไข ต้องมีการวางแผนงานร่วมกัน ทำงานเป็นระบบที่ชัดเจน ส่งเสริมด้านการศึกษาทั้งในส่วนของพระภิกษุสามเณรและของคฤหัสถ์ ตลอดจนเด็กและเยาวชน ให้การส่งเสริมสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมภายในวัดเพื่อเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และเพิ่มบทบาทในความเป็นผู้นำในการสร้างสาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชนและชุมชน มีการซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างศาสนสมบัติของวัดและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม

             ๔. แนวทางในการส่งเสริมความคาดหวังของพระสงฆ์ ต่อภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยภาพรวม พบว่า การแจกทุนการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนตามสถานศึกษาต่างๆ เป็นการสงเคราะห์ชุมชน โดยเฉพาะวัดมีโรงเรียนในสังกัดของวัดนั้นยิ่งต้องให้การสงเคราะห์ให้มากเพราะถือว่าโรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของวัด พระภิกษุรุ่นใหม่ๆ มีความรู้ทั้งทางโลกทางธรรมมีความเข้าใจในการอบรมพัฒนาจิตใจประชาชน มีการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธเจ้าจะทำให้ประชาชน และเยาวชน ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยลดปัญหาทางสังคมที่วัยรุ่นส่วนใหญ่ยังหลงใหลในเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้สังคมไทยในปัจจุบันเสื่อมโทรมลง ประชาชนขาดการเอื้อเฟื้อเผือแผ่กันไม่มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง การสงเคราะห์ควรเน้นแบบนันทนาการโดยผ่านการจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนเป็นการพัฒนางานได้ยั่งยืน คือยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ได้อย่างมั่นคง ในเรื่องการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม

ดาวน์โหลด