บทคัดย่อ
การวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของพุทธศาสตรบัณฑิตที่มีต่อการพัฒนาสังคมในจังหวัดตาก ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของพุทธศาสตรบัณฑิตที่มีต่อการพัฒนาสังคมในจังหวัดตาก ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ในการนำไปสู่กระบวน การพัฒนา พุทธศาสตรบัณฑิตที่มีความสอดคล้องกับความต้องการของสังคม
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ ดำเนินตามระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจโดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ พุทธศาสตรบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากหน่วยวิทยบริการจังหวัดตาก จำนวน ๖ รุ่น มีจำนวนประชากนทั้งสิ้น ๓๓๖ รูป/คน และได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๑๘๓ รูป/คน ซึ่งใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างโดยการใช้สูตรของ ทาโร่ ยามาเน่ การทดสอบค่าที ในกรณีตัวแปรต้นสองกลุ่ม และทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าเอฟ ด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปร ปรวนทางเดียว และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด และนำเสนอเป็นบทความเรียงประกอบตาราง โดยการแจกแจงความถี่ของผู้ตอบคำถามปลายเปิด และการ วิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๗ ท่าน โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท
ผลการวิจัย พบว่า
๑) ผู้สำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรบัณฑิตมีความคิดเห็นต่อบทบาทการพัฒนาสังคมในจังหวัดตาก โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน คือ ด้านบทบาทการบริการวิชาการรับใช้สังคม ด้านการสืบสานศิลปวัฒนธรรมและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และด้านการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อรับใช้สังคม พบว่า ผู้สำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรบัณฑิตมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกด้าน
๒) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้สำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรบัณฑิตต่อบทบาทการพัฒนาสังคม ในจังหวัดตากที่จำแนกตาม สถานภาพ อายุ บัณฑิตรุ่นที่ และประเภทหน่วยงานของท่าน ตัวแปรที่ทำให้ความคิดเห็นของผู้สำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรบัณฑิตที่มีต่อการพัฒนาสังคมในจังหวัดตาก ที่แตกต่างกันก็คือ อายุและประเภทของหน่วยงาน ส่วนตัวแปรที่ทำให้ความคิดเห็นของผู้สำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรบัณฑิตที่มีต่อการพัฒนาสังคมในจังหวัดตาก ไม่แตกต่างกันคือ สถานภาพ และบัณฑิตรุ่นที่
๓) ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ บทบาทพุทธศาสตรบัณฑิตที่มีต่อการพัฒนาสังคมในจังหวัดตาก ด้านการบริการวิชาการแก่สังคม ควรจัดกิจกรรมเข้าร่วมโครงการต่างๆกับส่วนงานราชการเพื่อสร้างบทบาทในเวทีแลกเปลี่ยนทางวิชาการ รวมไปถึงการจัดกลุ่มองค์กรในการเผยแผ่ผลงานวิชาการออกสู่สังคม สร้างเครือข่ายด้านการบริการวิชาการแก่สังคมร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ หรือมีการจัดอบรมเครือข่ายการบริการวิชาการแก่สังคมเพื่อให้บัณฑิตได้ใช้เป็นฐานในการพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อให้บัณฑิตรุ่นต่อไปได้สานต่องานจิตสาธารณะ
ด้านการสืบสานศิลปวัฒนธรรมและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ควรมีโครงสร้างการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมให้ชัดเจนโดยเฉพาะวิทยาลัยสงฆ์ควรจะเป็นหลักที่จะสร้างการสืบสานศิลปวัฒนธรรมให้มีความเด่นชัดขึ้น จัดตั้งกลุ่มโดยองค์กรบัณฑิต หรือศิษย์เก่า การสืบสานศิลปวัฒนธรรมส่งเสริมให้ศิษย์เก่าได้เข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำชุมชน วิทยาลัยสงฆ์ควรมีแบบในการส่งเสริมให้บัณฑิตได้ใช้ความรู้ทางพระพุทธศาสนาได้อย่างเต็มที่อันเป็นการช่วยสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา
ด้านพัฒนาองค์ความรู้เพื่อรับใช้สังคม ควรหาเวลาเพิ่มเติมสิ่งที่ยังขาดหาย และหาข้อบกพร่องในบางประการขององค์ความรู้ในการที่จะถ่ายทอดและพัฒนาองค์ความรู้ จัดให้มีการบรรยายพิเศษโดยวิทยากรด้านพัฒนาสังคมเพื่อเพิ่มทักษะให้กับบัณฑิตอันจะนำไปสู่การพัฒนาองค์ความรู้ของตัวเอง และสะสมประสบการณ์พัฒนาองค์ความรู้ของตัวเองในการรับใช้สังคม
ดาวน์โหลด
|