บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง “การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันไฟป่าตามหลักอปริหานิยธรรมในเขตตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน” มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันไฟป่าตามหลักอปริหานิยธรรมในเขตตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน 2) เพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันไฟป่าตามหลัก อปริหานิยธรรม ในเขตตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันไฟป่าตามหลักอปริหานิยธรรม ในเขตตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และ4) เพื่อศึกษาแนวทาง การพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันไฟป่าตามหลักอปริหานิยธรรม ในเขตตำบล ทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีของ Taro Yamane ที่ระดับความเชื่อมั่น ๙๕% จำนวนตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน ๓๘๕ ตัวอย่าง
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ระดับการมีส่วนร่วมในการป้องกันไฟป่าตามหลักอปริหานิยธรรม ค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน และเมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการให้เกียรติ และคุ้มครองสิทธิสตรี มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ด้านการอารักขา คุ้มครอง ปกป้อง อันชอบธรรม ด้านการส่งเสริม และรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ด้านการเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา ด้านการพร้อมเพียงกันประชุม ด้านการประชุมเป็นนิตย์ ส่วนค่าเฉลี่ยต่ำสุดได้แก่ ด้านการไม่บัญญัติ หรือไม่ล้มเลิกข้อบัญญัติตามอำเภอใจ พบว่า องค์กรการป้องกันไฟป่า ไม่บัญญัติระเบียบกฎเกณฑ์การป้องกันไฟป่า โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ดังนั้น องค์การป้องกันไฟป่าต้องไม่บัญญัติ หรือล้มเลิกข้อบัญญัติตามความพอใจของตนเองหรือพรรคพวกของกลุ่มตน เพราะย่อมนำมาซึ่งความไม่ไว้วางใจต่อกัน จะก่อเกิดความแตกแยก ขาดความสามัคคี ขาดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และจะส่งผลกระทบต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันไฟป่าในที่สุด
๒. ผลการการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันไฟป่าตามหลัก อปริหานิยธรรม ในเขตตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล อันได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ และประสบการณ์แก้ปัญหาไฟป่าร่วมกับชุมชน พบว่า เมื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันไฟป่าตามหลักอปริหานิยธรรม โดยภาพรวม จำแนกตาม อาชีพ และรายได้ ไม่มีความแตกต่างกัน แต่เพศ อายุ ระดับการศึกษา และประสบการณ์แก้ปัญหาไฟป่าร่วมกับชุมชน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑
๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันไฟป่าตามหลักอปริหานิยธรรม ในเขตตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน พบว่า ในด้านการประชุมเป็นนิตย์ เกี่ยวกับไม่สามารถเข้าร่วมประชุม เพราะติดภารกิจในหน้าที่การงาน ด้านการพร้อมเพียงกันประชุม เกี่ยวกับเข้าประชุมไม่พร้อมเพียงกัน ด้านการไม่บัญญัติ หรือไม่ล้มเลิกข้อบัญญัติตามอำเภอใจ เกี่ยวกับขาดการรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการศึกษา ด้านการเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา เกี่ยวกับคำสั่งไม่ชัดเจน ด้านการให้เกียรติ และคุ้มครองสิทธิสตรี เกี่ยวกับบทบาทการมีส่วนร่วมในป้องกันไฟป่าของสตรีมีน้อยกว่าบุรุษเพราะติดภารกิจในชีวิตประจำวัน ด้านการส่งเสริม และรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม เกี่ยวกับขาดงบประมาณสนับสนุนในการทำกิจกรรมต่างๆ ด้านการอารักขา คุ้มครอง ปกป้อง อันชอบธรรม เกี่ยวกับประชาชนขาดความรู้เกี่ยวกับการป้องกันไฟป่า
๔. แนวทางการพัฒนาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันไฟป่าตามหลัก อปริหานิยธรรม ในเขตตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน พบว่า ควรจัดการประชุมอย่างสม่ำเสมอและจัดประชุมในวันหยุด เพื่อให้ประชาชนได้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียงกัน และครบองค์ประชุม สามารถหาข้อยุติและลงมติด้านการบัญญัติกฎระเบียบต่างๆ ในที่ประชุมได้เป็นเอกฉันท์ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องควรสนับสนุนงบประมาณเพื่อการดำเนินกิจกรรมการสิ่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการอารักขา คุ้มครอง ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสืบสานงานด้านพระพุทธศาสนา
ดาวน์โหลด
|