บทคัดย่อ
กกกกกกกกการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อก๑)กศึกษาความคิดเห็นของประชาชน ที่มีต่อการประยุกต์ใช้หลักอปริหานิยธรรมในการบริหารงานของเทศบาลกตำบลสันผักหวาน อำเภอหางดงกจังหวัดเชียงใหม่ก๒)กเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการประยุกต์ ใช้หลักอปริหานิยธรรมในการบริหารงานของเทศบาลกตำบลสันผักหวานกอำเภอหางดงกจังหวัดเชียงใหม่ก๓)กศึกษาปัญหากอุปสรรคและแนวทางแก้ปัญหาของประชาชนที่มีต่อการประยุกต์ใช้ หลักอปริหานิยธรรมในการบริหารงานของเทศบาลกตำบลสันผักหวานกอำเภอหางดงกจังหวัดเชียงใหม่ ๔)กเพื่อศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้หลักอปริหานิยธรรมในการบริหารงานของเทศบาลกตำบล สันผักหวานกอำเภอหางดงกจังหวัดเชียงใหม่กเป็นการวิจัยแบบผสมก(MixedกMethodsกResearch) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณก(QuantitativeกResearch)กซึ่งเป็นการวิจัยเชิงสำรวจก(SurveyกResearch) และการวิจัยเชิงคุณภาพก(QualitativeกResearch)กโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกก(In-depthกInterview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญก(KeyกInformants)กกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้กคือประชาชนที่อาศัย อยู่ในเขตเทศบาลตำบลกสันผักหวานกจำนวนก๗กหมู่บ้านกที่มีอายุก๑๘กปีขึ้นไปกใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างตามลำดับชั้นอย่างเป็นสัดส่วนกโดยการใช้สูตรของกเครจซี่และมอร์แกนกกที่ระดับความเชื่อมั่นก๙๕ก%ก ระดับความคลาดเคลื่อนก๕ %กจำนวน ๑๒,๗๘๕ คนได้กลุ่มตัวอย่างจำนวนก๓๗๕กคน วิเคราะห์ข้อมูลกโดยใช้ค่าความถี่ก(Frequency)กและค่าร้อยละก(Percentage)กค่าเฉลี่ยก(Mean)กและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานก(StandardกDeviation)กการทดสอบค่ากทีก(t-test)กในกรณีตัวแปรต้นสองกลุ่มและการทดสอบกค่าเอฟก(F-test)กด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (OneกwayกANOVA)ก และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท พร้อมวิเคราะห์โดยใช้วิธีวิจัยแบบผสมผสาน
ผลการศึกษาวิจัยพบว่าก:
กกกกกกกก๑)กความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการประยุกต์ใช้หลักอปริหานิยธรรมในบริหารงานของเทศบาลกตำบลสันผักหวานกในภาพรวมอยู่ในระดับมากกโดยเฉลี่ยก(X̅=๓.๘๕)กเมื่อพิจารณา ในแต่ละด้านสามารถเรียงลำดับได้ดังนี้กด้านการให้เกียรติกคุ้มครองสิทธิสตรีกและเด็กกโดยเฉลี่ย (X̅=๔.๓๕)กรองลงมากคือด้านอนุรักษ์โบราณสถานและส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามโดยเฉลี่ย (X̅=๔.๑๑)กด้านการประชุมกันเป็นนิตย์กโดยเฉลี่ยก(X̅=๓.๗๘)กด้านการเคารพนับถือเชื่อฟังผู้ใหญ่ หรือผู้บังคับบัญชากโดยเฉลี่ยก(X̅=๓.๗๐)กด้านการประชุมหรือเลิกประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน และด้านการส่งเสริมปกป้องอันชอบธรรมต่อพระพุทธศาสนากมีค่าเท่ากันกโดยเฉลี่ยก(X̅=๓.๖๘) และด้านการไม่บัญญัติกหรือไม่ล้มเลิกข้อบัญญัติตามใจชอบกโดยเฉลี่ยก(X̅=๓.๖๖)
กกกกกกกก๒)กผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนกจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลกพบว่า ประชาชนที่มีกเพศกและรายได้กมีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักอปริหานิยธรรมในการบริหารงานของเทศบาลตำบลสันผักหวานกไม่แตกต่างกันกจึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้กส่วนประชาชนที่มีอายุ, ระดับการศึกษากและอาชีพกมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับก๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้
กกกกกกกก๓)กแนวทางการนำหลักอปริหานิยธรรมไปประยุกต์ใช้การบริหารงานของเทศบาลกพบว่า การเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนในชุมชุนเข้าไปมีส่วนร่วมกทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีระบบสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมกตามวัตถุประสงค์กซึ่งต้องมีกการวางแผนกการจัดองค์กรกการบริหารบุคคลกการสั่งการกการประสานงานกการตรวจสอบกและการประเมินผลกโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ ของส่วนรวมและประชาชนเป็นที่ตั้งกเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขอย่างยั่งยืน
ดาวน์โหลด
|