บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยเรื่อง การปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อศึกษาการปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลการปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของการปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ 4) เพื่อศึกษาแนวทางการปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Medthod Research ) ด้วยวิธีทางปริมาณ คุณภาพ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 367 คน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประชาชนส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 207 คน คิดเป็นร้อยละ 56.4 มีอายุระหว่าง 46-55 ปี จำนวน ๑1๒ คน คิดเป็นร้อยละ 30.5 มีการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน 171 คน คิดเป็นร้อยละ 46.6 ประกอบอาชีพรับจ้าง จำนวน ๑44 คน คิดเป็นร้อยละ ๓9.2 มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ บาท จำนวน 245 คน คิดเป็นร้อยละ 66.8
2. ระดับความคิดเห็นในการปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก (X̅ = 4.08) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าทุกด้านมีระดับความคิดเห็นในการปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยสูงสุด (X̅ = 4.13) ในด้านฉันทะ ส่วนค่าเฉลี่ยต่ำสุด (X̅ = 4.03) ในด้านวิมังสา
3. การเปรียบเทียบความคิดเห็นในการปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ด้วยการทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ความแตกต่างตามการจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ต่อเดือน พบว่า ด้านเพศ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ต่อเดือน มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านอายุ มีความคิดเห็นแตกต่างกัน จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้
4. ผลการศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลบวกค้าง สรุปได้คือ ชาวบ้านยังไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน ขาดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และยังไม่มีการ ใส่ใจในรายละเอียดของการทำงานมากนัก ซึ่งควรมีการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานเป็นทีมให้มากขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรติดตามและกำกับดูแลการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขอยู่เสมอ และควรใส่ใจการทำงานและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้นด้วย
5. ผลการศึกษาเชิงคุณภาพ พบว่า ผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญส่วนใหญ่มุ่งเน้นให้อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชนต้องมีความตั้งใจ มีใจรักในงาน มีความขยันหมั่นเพียร มีการปฏิบัติงานอย่างเอาใจใส่ และควรทำงานโดยใช้สติ อันเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี
ดาวน์โหลด
|