บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนต่อ การพัฒนาภาวะผู้นำของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนต่อการพัฒนาภาวะผู้นำของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยจำแนกปัจจัยส่วนบุคคล ๓) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะตามความคิดเห็นของประชาชนต่อการพัฒนาภาวะผู้นำของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ๔) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำตามหลักทุติยปาปณิกสูตรของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
ผู้วิจัยใช้วิธีวิจัยแบบผสมผสานวิธี โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณทำการหากลุ่มตัวอย่าง ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ ได้จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน ๓๗๔ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยทำทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ จากผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญ จำนวน ๑๑ รูป/คน จากนั้นทำการสรุปสาระสำคัญของการสัมภาษณ์แล้ววิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปของการพรรณนา
ผลการศึกษาวิจัย พบว่า
๑) ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับการพัฒนาภาวะผู้นำของ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก ทุกด้าน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (`X = ๔.๐๔ ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นต่อการพัฒนาภาวะผู้นำอยู่ในระดับสูงสุดคือ ด้านมุ่งประสาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (`X = ๔.๐๘ ) รองลงมาคือ ด้านมุ่งเกณฑ์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (`X = ๔.๐๗ ) รองลงมาคือ ด้านมุ่งสัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (`X = ๔.๐๒ ) และน้อยที่สุด คือ ด้านมุ่งงาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (`X = ๓.๙๙ )
๒) ผลการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามโดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการพัฒนาภาวะผู้นำของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแม่ปูคา อำเภอ สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ไม่แตกต่างกัน จึงปฎิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓) ผลของการศึกษาปัญหาอุปสรรค พบว่า ผู้นำไม่เข้าใจปัญหา ตลอดถึงความต้องการ ของประชาชนได้อย่างแท้จริง ขาดความรู้ความสามารถในการบริหารและใช้ความรู้สึกส่วนตัว ในการทำงาน ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกต้องในบางเรื่องและผู้นำบางท่านไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับชาวบ้าน ส่วนข้อเสนอแนะ พบว่า ผู้นำควรศึกษาปัญหาและความต้องการของประชาชนให้เข้าใจ เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อสถานการณ์นั้นๆ ต้องปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย จากราชการและทางชุมชนด้วยความเต็มใจ ควรที่จะทำให้สำเร็จ ต้องทำงานให้งานที่ทำสามารถ จับต้องได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดสำเร็จลุล่วงและมีคุณภาพที่สุด เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือไว้วางใจ ชาวบ้านจะได้ให้ความร่วมมือในด้านต่างๆมากขึ้น และต้องเป็นนักประสานงานสิบทิศ มุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนในชุมชน ควรมีน้ำใจและจริงจังในการแก้ปัญหา
๔) การสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาภาวะผู้นำของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญส่วนใหญ่เน้นเรื่องของ การปฎิบัติงานที่สอดคล้องกับหลักทุติยปาปณิกสูตร โดยเฉพาะเรื่องการมีวิสัยทัศน์ในการทำงาน มีความขยัน กระตือรือร้น มีการวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน มีมนุษยสัมพันธ์ดีต่อบุคคล ทุกระดับ มีการติดต่อประสานงานกับองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้อง มีความสามารถในการชักจูงบุคคลอื่น ให้กระทำตามความต้องการของผู้นำได้ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมสามารถทำงานเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และงานมีประสิทธิภาพสูงสุด
ดาวน์โหลด
|