บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยเรื่อง “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของตำรวจภูธร จังหวัดลำพูน” มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของตำรวจที่มีต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ๓) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ๔) เพื่อศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้หลักภาวนา ๔ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นการวิจัยแบบผสม (Mixed Methods) โดยใช้ประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย จากข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร และข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ของสถานีตำรวจภูธรบ้านธิ จังหวัดลำพูน และสถานีตำรวจภูธรแม่ทา จังหวัดลำพูน จำนวน ๒๐๕ คน เป็นตัวแทนของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน โดยเปรียบเทียบจำนวนประชากรกับตารางมาตรฐานว่าด้วยขนาดประชากรและขนาดตัวอย่างของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) จำนวน ๑๓๖ ตัวอย่าง เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ เพื่อหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทำการทดสอบสมมติฐานด้วยการทดสอบค่าที (t-test) และค่าเอฟ (F-test) ด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One way Anova) เมื่อพบว่ามีความแตกต่างจึงทดสอบความแตกต่างรายคู่โดยวิธีการหาผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference: LSD) ในส่วนของข้อคำถามปลายเปิดที่แสดงปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ ผู้วิจัยทำการจัดกลุ่มตามประเด็นที่กำหนดไว้ในแบบสอบถามปลายเปิด จากนั้น ทำการวิเคราะห์ โดยใช้การแจกแจงความถี่ (Frequency) และข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยทำการจัดกลุ่มข้อมูล (Data Grouping) สาระสำคัญของประเด็นการสัมภาษณ์ จากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา (Content Analysis Technique)
ผลการวิจัยพบว่า
๑) ระดับความคิดเห็นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก ( = ๔.๑๘) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ทุกด้านมีระดับความคิดเห็นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = ๔.๓๓) ในด้านปัญญาภาวนา ส่วนค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = ๔.๐๒) ในด้านจิตตภาวนา
๒) การเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ด้วยการทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ความแตกต่างตามการจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งปัจจุบัน ระดับรายได้ต่อเดือน และอายุราชการ พบว่า มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน
๓) ผลการศึกษาปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน สรุปได้ว่า ด้านกายภาวนา มีภาระหน้าที่มากทำให้ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอให้เหมาะสม ตามช่วงอายุ วัย ด้านศีลภาวนา ยังขาดระเบียบวินัยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ควรมี การอบรมบุคลากรให้ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยอยู่เป็นประจำและปฏิบัติต่อประชาชนโดยยึดตามหลักกฎหมาย ด้านจิตตภาวนา เนื่องจากภารกิจมาก ด้านการเงิน และความเป็นอยู่ ไม่ค่อยดีส่งผลทางด้านจิตใจ ควรมีส่งเสริมให้บุคลากรฝึกฝนด้านจิตใจให้มาก ด้านปัญญาภาวนา ไม่ใฝ่รู้ ขาดความพร้อมทางด้านสุขภาพ การเงิน ครอบครัว ควรสนับสนุนมีการอบรมฝึกให้เกิด สติปัญญา มีปฏิภาณไหวพริบในการปฏิบัติหน้าที่ จะได้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคม
๔) ผลการศึกษาเชิงคุณภาพ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนา ๔ ของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน พบว่า ผู้ให้ข้อมูลสำคัญส่วนใหญ่เน้นในเรื่องการประพฤติตน อยู่ในระเบียบวินัย ข้อบังคับ หลักกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการให้บริการแก่ประชาชน และสังคมส่วนรวม การพัฒนาร่างกายเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดีขึ้นปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงการนำหลักธรรมทางพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันจะเกิดผลดีต่อทั้งผู้ปฏิบัติงานและหน่วยงานในภาพรวม
ดาวน์โหลด
|