บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในด้านการส่งเสริมกิจการของสถานีตำรวจภูธรแม่วาง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชน ในด้านการส่งเสริมกิจการของสถานีตำรวจภูธรแม่วาง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ 3) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชน และ 4) เพื่อศึกษาแนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ตามหลักฆราวาสธรรม ในด้านการส่งเสริมกิจการของสถานีตำรวจภูธรแม่วาง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการวิจัยโดยการวิจัยแบบผสม ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนที่อยู่ในเขตตำบลบ้านกาด อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2,622 คน ทำการสุ่มกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างของเครซี่และมอร์แกน ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง คือ ๓๓๕ คน และเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์เพื่อหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการอธิบายลักษณะข้อมูลทั่วไป และทำการทดสอบสมมติฐานด้วยการทดสอบค่าที และค่าเอฟ ด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว เมื่อพบว่ามีความแตกต่างจึงทดสอบความแตกต่างรายคู่โดยวิธีการหาผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด ในส่วนของข้อคำถามปลายเปิดที่แสดงปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ ผู้วิจัยทำการจัดกลุ่มตามประเด็นที่กำหนดไว้ในแบบสอบถามปลายเปิด จากนั้นจะทำการวิเคราะห์ โดยใช้การแจกแจงความถี่ และข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยจะทำการจัดกลุ่มข้อมูลตามสาระสำคัญของประเด็นการสัมภาษณ์ จากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาโดยวิธีการพรรณนาอ้างอิงคำพูดบุคคล
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน ในด้านการช่วยเหลือกิจการของสถานีตำรวจภูธร แม่วาง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ประชาชนผู้ตอบแบบสอบถามมีระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนตำบลบ้านกาด ในด้านการช่วยเหลือกิจการของสถานีตำรวจภูธรแม่วาง ค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.74)
๒. การเปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมของประชาชน ในด้านการส่งเสริมกิจการของสถานีตำรวจภูธรแม่วาง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยการทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ความแตกต่างตามการจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้พบว่าแตกต่างกัน จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้
๓. ผลการศึกษาปัญหาอุปสรรค เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชน ในด้านการส่งเสริมกิจการของสถานีตำรวจภูธรแม่วาง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ สรุปได้ คือ ด้านการวางแผน ผู้นำไม่มีวิสัยทัศน์ วิเคราะห์สถานการณ์ไม่เป็น ด้านการดำเนินงาน คือ ไม่มีความสามารถชำนาญการในการทำงาน ด้านการร่วมรับผลประโยชน์ คือ ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเบื้องต้น ด้านการประเมินผล คือ ประชาชนขาดความพร้อม ไม่มีความรู้ความเข้าใจ ในประเด็นปัญหา และข้อเสนอแนะ ด้านการวางแผน คือ การวางแผนที่ดีต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ และโอกาสใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ด้านการดำเนินงาน คือ เจ้าหน้าที่ ต้องมีความรู้ความชำนาญการในงานของตนเอง ด้านการดำเนินงานคือ ควรมีเจ้าหน้าที่ ด้านกฎหมาย เพื่อมาให้ความเบื้องต้นแก่ประชาชน ด้านการประเมินผล คือการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่ออบรมความรู้ด้านการประเมินให้กับประชาชน
๔. ผลการสัมภาษณ์ พบว่า ผู้ให้ข้อมูลสำคัญส่วนใหญ่เน้นในเรื่องการร่วมประเมินผลกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ เพราะการประเมินผลการดำเนินงานนั้นจะเป็นสิ่งที่บ่งชี้ได้ว่าการดำเนินงานประสบความสำเร็จหรือไม่ และการร่วมรับผลประโยชน์ในเรื่องของแก้ไขปัญหาชุมชน แสดงให้เห็นว่า ประชาชนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรับผลประโยชน์จากกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินไป เป็นการหวังผลลัพธ์ที่ได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นการคาดหวังที่จะทำให้เกิดประโยชน์สุขต่อประชาชนและชุมชนเป็นสำคัญ
ดาวน์โหลด
|