บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ เพื่อศึกษาการบรรลุธรรมในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท เพื่อศึกษาการบำเพ็ญบารมีเพื่อการบรรลุธรรมในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท เพื่อศึกษาการบำเพ็ญบารมีและการบรรลุธรรมของพระปฏาจาราเถรี โดยศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาทและเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวบรวม สรุป วิเคราะห์ เรียบเรียงบรรยายเชิงพรรณนา ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ จากการศึกษาพบว่า
การบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนาหมายถึงการรู้แจ้งอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ได้แก่การบรรลุโลกุตตรธรรม ๙ ได้แก่ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ทำการละสังโยชน์ธรรมได้ตามกำลังของมรรคญาณ แบ่งเป็น ๔ ระดับคือ ๑) พระโสดาบันสามารถประหาณ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพต-ปรามาสได้, ๒) พระสกทาคามีทำราคะ และปฏิฆะให้เบาบางลงได้, ๓) ผู้สำเร็จเป็นพระอนาคามีบุคคล ย่อมประหาณสังโยชน์ทั้ง ๓ รวมทั้งกามราคะ ปฏิฆะได้ และ ๔) พระอรหันตบุคคล ย่อมประหาณสังโยชน์ที่เหลือคือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุจธัทจะ และอวิชชาได้โดยสิ้นเชิง
การบำเพ็ญบารมีเพื่อบรรลุธรรม คือ การสั่งสมคุณความดี ๑๐ ประการ มีทานเป็นต้น
อันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานเป็นระยะเวลายาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงชาติปัจจุบันให้บริบูรณ์ การบำเพ็ญบารมีสามารถแบ่งได้เป็น ๒ ประเภท คือ (๑) โพธิสัตว์บารมี คือ การบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการ ให้บริบูรณ์อย่างยิ่งยวด ๓ ระดับขั้น ได้แก่ บารมี อุปบารมี และปรมัตถบารมี โดยตั้งความปรารถนาเพื่อจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต (๒) สาวกบารมี คือ การบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการ ให้บริบูรณ์ เพื่อที่จะตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า
พระภิกษุณีปฏาจาราเถรีได้เริ่มสั่งสมบารมีและตั้งความปรารถนาเป็นเอตทัคคะสาวิกาผู้เลิศด้านทางทรงจำพระวินัย ในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ และ บำเพ็ญบารมีเรื่อยมาจนถึงสมัยพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เมื่อมีชีวิตต้องประสบกับความทุกข์โสกเพราะการเสื่อมสูญด้านครอบครัวจนเสียสติ และได้การฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าและเจริญวิปัสสนาภาวนา ดูรูปนามอย่างต่อเนื่อง ตามแนวสติปัฏฐาน ๔ จนตัดสังโยชน์ ๑๐ เข้าสู่โลกุตรธรรม ๙ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในที่สุดและได้รับการยกย่องในเอตทัคคะทางการทรงจำพระวินัย
ดาวน์โหลด
|