บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ เพื่อศึกษามหาราหุโลวาทสูตร เพื่อศึกษาการปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผล และเพื่อศึกษาการปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลในมหาราหุโลวาทสูตร โดยศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาทและเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวบรวม สรุป วิเคราะห์ เรียบเรียงบรรยายเชิงพรรณนา ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ จากการศึกษาพบว่า
มหาราหุโลวาทสูตร เป็นพระสูตรที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานโอวาทแก่สามเณรราหุล ในเรื่องอุปาทานขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เป็น อดีต อนาคต ปัจจุบัน ภายใน ภายนอก หยาบ ละเอียด เลว ประณีต อยู่ในที่ไกล อยู่ในที่ใกล้ ทั้งปวงนี้นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่นนั่นไม่ใช่อัตตาของเรา เพื่อละอุปาทานขันธ์ ในเรื่องธาตุ ๕ ให้พิจารนาขันธ์สักแต่ว่าเป็นธาตุ ละความยึดมั่นในรูปอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นภายใน และที่เป็นภายนอก พึงเห็นด้วยปัญญาชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา เป็นอารมณ์ของวิปัสสนาเพื่อให้เกิดปัญญาญาณ ทรงตรัสให้สามเณรราหุลเจริญภาวนา ๖ อย่าง คือ เมตตาภาวนา กรุณาภาวนา มุทิตาภาวนา อุเบกขาภาวนา อสุภสัญญาภาวนา และอนิจจสัญญาภาวนา จากนั้นเจริญอานาปานสติ ๑๖ ขั้น
การปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาเพื่อชำระจิตให้เกิดปัญญาพิจารณาจนเห็นสภาวะของ รูป-นาม ตามความเป็นจริงในกฎแห่งไตรลักษณ์ว่าเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เข้าถึงความหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ทำให้สิ้นอาสวะซึ่งหมายถึงการบรรลุมรรคผล ตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ การเข้าถึงกระแสแห่งธรรมะ ที่เป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่กำจัดกิเลสได้จนบรรลุถึงบรรลุมรรคผลนิพพานในที่สุดซึ่งเป็นที่สิ้นไปแห่งทุกข์ทั้งปวง
การปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลในมหาราหุโลวาทสูตร เป็นการปฏิบัติแบบยุคนัทธภาวนา คือการเจริญสมถะและวิปัสสนาควบคู่กันไป โดยการพิจารณาธาตุทั้งหลายไม่ยินดียินร้ายในผัสสะ เพื่อให้สละความยึดมั่นในรูปขันธ์ และทรงสอนให้ละอหังการ มมังการ และมานานุสัย ดวยการเจริญภาวนาธรรม คือ เมตตาละพยาบาท กรุณาละวิหิงสา มุทิตาละอรติ อุเบกขาละปฏิฆะ อสุภภาวนาละราคะ อนิจจสัญญาละอัสมิมานะ และการเจริญอานาปานสติ พระบรมศาสดาตรัสสอนธรรมเป็นเครื่องบ่มวิมุตติแก่พระราหุล เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาวิปัสสนาปัญญาจนบรรลุอรหัตตผลต่อไป
ดาวน์โหลด |