บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยเรื่อง “การศึกษาเปรียบเทียบแนวคิดเรื่องไฟในศาสนาฮินดูกับ พระพุทธศาสนาเถรวาท” นี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องไฟในศาสนาฮินดู ๒) เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องไฟในพระพุทธศาสนาเถรวาท และ ๓) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบแนวคิดเรื่องไฟในศาสนาฮินดูกับพระพุทธศาสนาเถรวาท โดยในงานวิจัยนี้ เป็นการศึกษาในเชิงเอกสารจากคัมภีร์ทางศาสนาเป็นหลัก ครอบคลุมในประเด็นเกี่ยวกับวิวัฒนาการของไฟทั้งภายในและภายนอก คุณประโยชน์ของไฟ โทษของไฟ และการประยุกต์ใช้ไฟในชีวิตประจำวัน
ผลการวิจัยพบว่า ทั้งศาสนาฮินดูและพระพุทธศาสนาเถรวาท มีทัศนะว่าการเกิดขึ้นของไฟนั้นมีผู้สร้างและโลกนี้มีการเกิดขึ้น ดำรงอยู่ แตกทำลายไป แล้วกลับมาเกิดอีกเช่นเดิม ในฝ่ายของศาสนาฮินดูกล่าวว่าพระพรหมเป็นผู้สร้างโดยมีพระอัคนีเป็นผู้ควบคุมดูแลทั้งระบบสุริยจักรวาล ที่เกี่ยวข้องกับไฟทุกประการตั้งแต่เกิดจนกระทั่งดับสูญ ส่วนฝ่ายพระพุทธศาสนาเถรวาท กล่าวว่าระบบสุริยจักรวาลเกิดและดับพระคุณธรรมของบุคคลในโลกรวมทั้งมนุษย์และเทวดา แต่เป็นการทำลายตัวของมันเองโดยธรรมชาติจนดับสลายไป และกลับเกิดขึ้นใหม่เป็นปกติธรรมดา
ในประเด็นที่เหมือนกันศาสนาฮินดูและพระพุทธศาสนาเถรวาท มีทัศนะว่า ไฟให้ประโยชน์แก่ร่างกายของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย โดยเป็นส่วนที่ทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปย่อยสลาย ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายทั้งด้านในและด้านนอก ส่วนในประเด็นที่มองต่างกัน ศาสนาฮินดูมีทัศนะว่า นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ไฟยังใช้เป็นสื่อกลางให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า เช่น การใช้ไฟเป็นเครื่องเผาวัตถุสำหรับเซ่นสังเวยเทพเจ้า และควันของไฟย่อมนำเอาวัตถุที่เผาทำลายไปมอบถวายแด่เทพเจ้า เพื่อดลบันดาลในสิ่งที่ตนปรารถนา ในส่วนของพระพุทธศาสนาเถรวาท มองถึงประโยชน์จากไฟที่เป็นผู้ทำลาย อันแสดงให้เห็นถึงทุกสิ่งมีเกิดแล้วย่อมมีดับไปเป็นธรรมดา
ศาสนาฮินดูมีทัศนะว่า โทษเกิดจากภัยธรรมชาติก่อให้เกิดขึ้น และเกิดจากการดลบันดาลของเทพเจ้า ในเมื่อพระองค์ไม่พอพระทัยจากเครื่องสักการะ ส่วนพระพุทธศาสนาเถรวาทมีทัศนะว่า โทษที่เกิดจากไฟมี ๒ ประการคือ โทษจากภายในร่างกาย อันเกิดจากการทำงานไม่สมดุลของธาตุไฟ ทำให้การเผาผลาญพลังงานไม่เต็มที่ ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่เกิดเพราะไฟกำเริบ อีกประการหนึ่ง เป็นโทษที่เกิดเพราะความบกพร่องของไฟในระบบของธรรมชาติ เช่น ความร้อนจากดวงอาทิตย์ ไฟป่าก่อให้เกิดควันสร้างมลพิษและทำลายสุขภาพของมนุษย์ได้
การประยุกต์ใช้ไฟในชีวิตประจำวัน ในส่วนของศาสนาฮินดู มุ่งไปที่พฤติกรรมในการประกอบพิธีกรรมบูชาไฟและการบูชายัญซึ่งมีไฟเป็นเครื่องประกอบหรือเป็นสื่อนำเครื่องสังเวยนั้นไปปฏิการต่อเทพเจ้า รวมถึงการใช้ไฟเป็นเครื่องนำพาร่างกายของบุคคลที่เสียชีวิตแล้วให้เข้าไปสู่ภพภูมิที่ปรารถนาตามคติของศาสนาฮินดู ส่วนพระพุทธศาสนาแม้จะมีพิธีกรรมที่เกี่ยวกับไฟ แต่ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของการใช้ไฟ อันที่จริงแล้วจะเน้นไปที่การนำไฟไปเป็นสื่อในการเผยแผ่ศาสนา เช่น และการใช้ไฟเป็นอุปกรณ์ในการบรรลุธรรม คือการนำไฟมาเป็นเครื่องมือการเจริญกสิณ
ดาวน์โหลด
|