บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องพระโพธิสัตว์ในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท เพื่อศึกษาอาสภิวาจาของพระโพธิสัตว์ในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท และ เพื่อศึกษาคุณค่าอาสภิวาจาของพระโพธิสัตว์ โดยการศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท ได้แก่ พระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และคัมภีร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เรียบเรียง บรรยาย ตรวจสอบ โดยอาจารย์ที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญ จากการศึกษาพบว่า
พระโพธิสัตว์ หมายถึง บุคคลผู้บำเพ็ญบารมีเพื่ออุบัติเกิดขึ้นเป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์มี ๓ ประเภท คือ ปัญญาธิกโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีโดยใช้ปัญญาเป็นตัวนำ สัทธาธิกโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีโดยใช้ศรัทธาเป็นตัวนำ และ วิริยาธิกโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีโดยใช้วิริยะเป็นตัวนำ สมเด็จพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า เคยเสวยชาติเป็นโพธิสัตว์ประเภทปัญญาธิกะ เพราะมีกำลังบารมีแรงมาก จากที่ได้ตั้งความปรารถนาไว้กับพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ จนนับชาติไม่ถ้วนด้วยจิตคิดว่า เราตรัสรู้แล้วจะให้ผู้อื่นตรัสรู้ด้วย เราพ้นแล้ว จะให้ผู้อื่นพ้นด้วย เราข้ามได้แล้ว จะให้ผู้อื่นข้ามด้วย
อาสภิวาจา หมายถึง พระวาจาที่แสดงความองอาจ อาจหาญ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกให้รู้การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้า ด้วยพระดำรัสที่เรียกว่า “อคโคหมสมิ โลกสส, เชฏโฐหมสมิ โลกสส, เสฏโฐหมสมิ โลกสส” “เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก เราเป็นเจริญที่สุดแห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐแห่งโลก” ซึ่งปรากฏในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา คือ พระไตรปิฎก และอรรถกถา โดยได้เลือกศึกษาพระวาจาที่แสดงความเป็น “อัคคะ”,“เชฏฐะ” และ “เสฏฐะ” ตามลำดับ
การศึกษาคุณค่าของอาสภิวาจาของพระโพธิสัตว์ พบว่า มีคุณค่าหลายด้าน คือ ด้านความเชื่อ เช่น พระโพธิสัตว์ชูพระดรรชนีขึ้นฟ้า ประกาศอาสภิวาจา หมายถึง (๑) การที่เทวดามารับ แสดงว่า พระกุมารจะได้รับการยอมรับจากเจ้าลัทธิที่มีชื่อเสียง เช่น อาฬารดาบส และอุทกดาบส (๒) การที่เสด็จดำเนินไปทางทิศเหนือแสดงว่า จะทรงอยู่เหนือ หรือเอาชนะความเห็นผิดต่าง ๆ ที่มีในยุคนั้น (๓) การที่ทรงชี้พระดรรชนีแล้วเปล่งอาสภิวาจา แสดงว่าจะได้ประกาศสัจธรรมที่ตรัสรู้แก่โลก (๔)การที่เสด็จดำเนินได้ ๗ ก้าว แสดงว่า จะทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้แพร่หลายในแว่นแคว้นทั้ง ๗ และสร้างความเชื่อขึ้น ในหมู่ชาวพุทธ โดยเฉพาะประเทศไทย ได้นำสัญลักษณ์ คือ อาสภิวาจา นำมาเป็นสัญลักษณ์สร้างรูปเคารพ เป็นต้น
ดาวน์โหลด
|