บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติต่อการสวดอุปปาตะสันติคาถาของอุบาสกอุบาสิกา วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพมหานครและเพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อการสวดอุปปาตะสันติคาถาของอุบาสกอุบาสิกา วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพมหานคร
กลุ่มตัวอย่าง คัดเลือกโดยวิธีสุ่มแบบเจาะจงอุบาสกอุบาสิกาที่เข้าร่วมพิธีการสวดอุปปาตะสันติคาถา ณ วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ จำนวนทั้งสิ้น ๑๕๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นเท่ากับ ๐.๙๔ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติที่ใช้ศึกษาวัตถุประสงค์การวิจัย ได้แก่ สถิติการแจกแจงแบบทีชนิดที่เป็นอิสระจากกัน (t-dependent) และสถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม (Analysis of Covariance : ANOVA) ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ พบว่า
ทัศนคติต่อการสวดอุปปาตะสันติคาถาโดยรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนใหญ่เชื่อว่ากิจกรรมของโครงการเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาจิตใจ และช่วยให้ได้ทำความดี สร้างบุญกุศล ทำให้มีจิตเป็นสมาธิ และมีความสุข พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีทัศนคติต่อการสวดอุปปาตะสันติคาถาทุกด้านที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ และยังพบว่าอุบาสกอุบาสิกาที่มีอายุระหว่าง ๒๑-๓๕ ปี มีทัศนคติต่อการเข้าร่วมกิจกรรมที่แตกต่างกับผู้ที่มีอายุระหว่าง ๑๕-๒๐ ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
การศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อการสวดอุปปาตะสันติคาถา พบว่าขาด การชักชวนให้ญาติมิตรสหายมาเข้าร่วมโครงการ การเตรียมตัวและวัตถุทานเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมโครงการ แต่ได้สละแบ่งปันสิ่งของและปัจจัยเข้าร่วมกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ ควรให้มีส่วนร่วมของประชาชนช่วยทะนุบำรุงและจรรโลงพระพุทธศาสนา และควรประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการเป็นไปอย่างกว้างขวาง ความสะอาดและจำนวนของห้องสุขาที่ให้บริการ ความสะดวกและการบริการที่ได้รับจากคณะผู้จัดงาน
ดาวน์โหลด
|