บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ เพื่อศึกษาเนื้อหาและหลักธรรมในสัมมาทิฏฐิสูตร เพื่อศึกษาอารมณ์วิปัสสนากรรมฐานในสัมมาทิฏฐิสูตร และเพื่อศึกษาแนวทางการเจริญวิปัสสนา ในสัมมาทิฏฐิสูตร โดยการศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท คือพระไตรปิฎกอรรถกถา และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้วนำมาเรียบเรียงบรรยายเชิงพรรณนา ผลการศึกษาพบว่า
สัมมาทิฏฐิสูตร เป็นพระสูตรที่ปรากฏในคัมภีร์มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ว่าด้วย เรื่องความเห็นชอบ เป็นชื่อของปัญญามีลักษณะที่รู้แจ้งตามความเป็นจริงอย่างแจ่มแจ้ง ไม่หลงใหลไปตามอารมณ์ที่กระทบในทางทวาร ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ มีความใส่ใจอย่างดีแยบคายต่อการกระทบนั้นเป็นเหตุใกล้โดยในพระสูตร แสดงถึงหลักธรรมทั้งหมด ๑๖ อย่าง เน้นความสำคัญที่ว่าผู้มีสัมมาทิฏฐิจึงรู้แจ้งชัดในความทุกข์และความดับทุกข์ได้ตามเหตุปัจจัยการเกิดดับของปฏิจจสมุปบาท และการเจริญมรรคมีองค์ ๘ ในอริยสัจจนเกิดการหยั่งรู้ชอบ และหลุดพ้นชอบในที่สุด
อารมณ์วิปัสสนากรรมฐาน ในสัมมาทิฏฐิสูตร หมายถึง อารมณ์ที่เป็นเครื่องยึดหน่วงจิตใจ เป็นสิ่งที่ถูกรู้ หรือถูกรับรู้ เรียกว่า อารมณ์ ๖ ซึ่งได้แก่ รูปารมณ์ สัททารมณ์ คันธารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ และธรรมารมณ์ ซึ่งสงเคราะห์ย่อลงเหลือ เพียงรูปนาม ที่เป็นปรมัตถ์ ไม่ใช่สัตว์ตัวตน บุคคล เรา เขา หลักธรรมในสัมมาทิฏฐิสูตร มีอกุศลและกุศล อาหาร เป็นต้น ล้วนเป็นอารมณ์ในการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ทั้งสิ้น
จากการศึกษาแนวทางการเจริญวิปัสสนาในสัมมาทิฏฐิสูตรพบว่า หลักธรรมทั้งปวงล้วนแสดงการเกิดดับของรูปนามไว้อย่างชัดเจน ในการปฏิบัตินั้นเป็นการกระทำด้วย การใช้สติระลึกรู้อารมณ์ที่มากระทบแล้วดับสลายไปในขณะปัจจุบันตรงนั้นเหมือนกันทุกทวาร เช่น จักษุและรูป กระทบกันทำให้เกิดจักขุวิญญาณเป็นต้น ในการศึกษาครั้งนี้ จึงได้ศึกษาแนวทางการปฏิบัติวิปัสสนาโดยมีปฏิจจสมุปบาทเป็นอารมณ์ ดังที่ทรงแสดงไว้ว่า เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดตัณหานี้คือสายเกิดทุกข์ และเพราะผัสสะดับเวทนาจึงดับ เพราะเวทนาดับตัณหาจึงดับ เป็นต้น นี้คือสายดับทุกข์ ทำให้เกิดปัญญาจนมรรคบริบูรณ์ มีสัมมาทิฏฐิ เป็นต้น เมื่อละกิเลสได้แล้ว และกิเลสที่เหลืออยู่ สามารถรู้แจ้งแทงตลอด บรรลุถึงอริยมรรค อริยผล และนิพพานในที่สุด
ดาวน์โหลด |