บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมของผู้สวดสาธยายพระไตรปิฎก ณ วัดไร่เกาะต้นสำโรง และเพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมของผู้สวดสาธยายพระไตรปิฎก ณ วัดไร่เกาะต้นสำโรง คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีสุ่มแบบเจาะจงจากผู้ร่วมพิธีสวดสาธยายพระไตรปิฎก ณ วัดไร่เกาะต้นสำโรง จำนวน ๑๕๐ คน เป็นเพศชาย ๕๖ คน และเพศหญิง ๙๔ คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๙๒ ใช้ศึกษาความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรม ๔ ด้าน คือ ๑) ความเชื่อและความสนใจก่อนเข้าร่วมกิจกรรมโครงการ ๒) ความเชื่อและความสนใจขณะเข้าร่วมกิจกรรมโครงการ ๓) ความเชื่อและความสนใจในกิจกรรมการปฏิบัติธรรม และ ๔) ความพึงพอใจเกี่ยวกับโครงการ
การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปและระดับความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมใช้สถิติพื้นฐาน (Descritptive Statistics) แสดงค่าจำนวน อัตราส่วนร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แล้วแปลผลตามเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์การวิจัยใช้สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) เพื่อทดสอบหาค่าความแปรปรวนร่วม (Analysis of Covariance : ANOVA) และทดสอบหาความแตกต่างเป็นรายคู่โดยวิธีการของเชฟเฟ่ (Sheffé s post hoc comparison) ผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์ พบว่า
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ ๖๒.๖๗ อายุระหว่าง ๓๖-๔๕ ปี มีการศึกษาในระดับปริญญาตรี/สูงกว่า ประกอบอาชีพค้าขายและธุรกิจส่วนตัว ผลการศึกษาความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมโดยรวม พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความเชื่อและความสนใจอยู่ในระดับมากทุกด้าน
การศึกษาความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมที่จำแนกตามตัวแปรเพศ พบว่า เพศหญิงมีความเชื่อและความสนใจอยู่ในระดับที่สูงกว่าเพศชายและพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนความเชื่อและความสนใจด้านอื่นๆ นั้นพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
การศึกษาความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมที่จำแนกตามตัวแปรอายุ พบว่าผู้มีอายุต่างกันมีความเชื่อและความสนใจก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมที่แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนผู้มีอายุระหว่าง ๒๑-๓๕ ปีกับผู้มีอายุระหว่าง ๓๖-๔๕ ปี มีความเชื่อและความสนใจขณะเข้าร่วมกิจกรรมโครงการที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
การศึกษาความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมที่จำแนกตามตัวแปรระดับการศึกษา พบว่า ผู้มีการศึกษาต่างกันมีความเชื่อและความสนใจก่อนเข้าร่วมกิจกรรมโครงการที่แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนผู้มีการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาและระดับปริญญาตรี/สูงกว่ามีความเชื่อและความสนใจขณะเข้าร่วมกิจกรรมโครงการสูงกว่าผู้ที่มีการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษา และพบว่ามีความเชื่อและความสนใจที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
การศึกษาความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมจำแนกตามตัวแปรอาชีพ พบว่าผู้มีอาชีพต่างกันมีความเชื่อและความสนใจก่อนเข้าร่วมกิจกรรมโครงการ ความเชื่อและความสนใจขณะเข้าร่วมกิจกรรมโครงการที่และความเชื่อและความสนใจในกิจกรรมการปฏิบัติธรรมที่แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
การศึกษาปัญหาข้อเสนอแนะและอุปสรรคในการสร้างความเชื่อและความสนใจในการปฏิบัติธรรมของผู้สวดสาธยายพระไตรปิฎก ณ วัดไร่เกาะต้นสำโรง พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เตรียมตัวและวัตถุทานเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมโครงการไม่ทัน ไม่มีโอกาสได้ชักชวนญาติ มิตรสหาย เข้าร่วมโครงการ แม้ว่าต้องการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมโครงการทันทีก็ตาม ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องในวัดไร่เกาะต้นสำโรง จึงควรจัดเตรียมแผนประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง มีเวลาเพียงพอสำหรับการเตรียมความพร้อมของผู้ประสงค์เข้าร่วมกิจกรรมในโครงการปฏิบัติธรรม
การศึกษาความพึงพอใจเกี่ยวกับโครงการพบว่า กลุ่มตัวอย่างรู้สึกไม่ค่อยพอใจเมื่อมีบุคคลอื่นขัดจังหวะหรือมีเหตุให้ต้องหยุดสวด จนต้องกำหนดจิตใจให้มั่นคง และอ่านบทสวดสาธยายให้ทันทุกอักขระ จึงสามารถคลายวิตกกังวล ไม่ฟุ้งซ่าน และยังพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษาระดับประถมศึกษามีความเชื่อและความสนใจขณะเข้าร่วมกิจกรรมโครงการที่สูงกว่าผู้มีการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า
ดาวน์โหลด
|