บทคัดย่อ วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ เพื่อศึกษาเนื้อหาหลักธรรมใน สังขารูปปัตติสูตร เพื่อศึกษาแนวทางการเจริญสมถะและวิปัสสนาในสังขารูปปัตติสูตร และเพื่อศึกษาแนวทางการเจริญปธานิยังคธรรม ๕ ประการในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา โดยการศึกษาข้อมูลจากคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท คือพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น คัมภีร์วิสุทธิมรรค เป็นต้น จากการศึกษาพบว่า สังขารูปปัตติสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรที่พระสังคีติกาจารย์ ประมวลไว้ในคัมภีร์มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ อนุปทวรรค ต่อจาก มหาจัตตารีสกสูตร อานาปานัสสติสูตร และกายคตาสติสูตร โดยมีหลักธรรมที่เป็นสาระสำคัญที่ทรงแสดงไว้ใน สังขารูปปัตติสูตร คือ ทรงแสดงการเกิดขึ้นแห่งสังขาร คือการตั้งจิตอธิษฐานให้ไปเกิดในภพต่าง ๆ ตามที่เขาอธิษฐาน การเจริญวิปัสสนาภาวนาในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท มีแนวทางการเจริญ ๒ แบบ คือ ๑. แบบสมถะภาวนา คือการฝึกอบรมจิตให้เกิดความสงบ ผลที่ได้จากสมถะ คือ ฌานสมาบัติ และอภิญญา เพื่อใช้เป็นบาทฐานวิปัสสนา ๒. แบบวิปัสสนาภาวนา คือการเจริญวิปัสสนาโดยอาศัยอารมณ์วิปัสสนาล้วน มีอารมณ์ ๖ เรียกว่า วิปัสสนาภูมิ คือ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ อริยสัจ ๔ และปฏิจจสมุปบาท ๑๒ โดยสรุปได้แก่ รูป–นาม ซึ่งเป็นแดนเกิดของปัญญา ด้วยกระบวนการปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน ๔ คือ สติเข้าไปตั้งมั่นในกาย เวทนา จิต และธรรม จากการศึกษาแนวทางการเจริญปธานิยังคธรรม ๕ ประการในการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา พบว่า ปธานิยังคธรรม ๕ มีปรากฏไว้อย่างชัดเจน คือ องค์แห่งความเพียร ๕ ประการ คือ ๑. ความศรัทธาในพระพุทธเจ้า ๒. เป็นผู้มีโรคน้อย ๓. เป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยา ๔. ทำความเพียรในกุศลธรรมและละอกุศลธรรม ๕. เป็นผู้มีปัญญา รู้ความเกิดและดับของรูป–นาม
ดาวน์โหลด