บทคัดย่อ
สารนิพันธ์เรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของไฟก่อนสมัยพุทธกาลและศึกษาเรื่องไฟพระราชทานในสังคมปัจจุบันในเชิงพัฒนาการ สารนิพนธ์เรื่องนี้ เป็นการวิจัยเอกสาร โดยศึกษาจากพระไตรปิฎก หนังสือ ตำรา เอกสารทางวิชาการ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง แล้วนำเสนอเป็นรายงานวิจัยด้วยวิธีพรรณนาวิเคราะห์
ผลวิจัยพบว่า แนวคิดเกี่ยวกับการบูชาและการปฏิบัติต่อไฟในสมัยต่างๆปรากฏว่าการบูชาไฟก่อนสมัยดึกดำบรรพ์ โดยทั่วไปไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม การบูชาไฟในระยะเริ่มแรก เป็นการบูชาปุรุษะ คือวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่แผ่ซ่านไปทุกหนทุกแห่ง มีความยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าแห่งความไม่ตาย โดยหน้าที่ ปุรุษะเป็นเครื่องสังเวยและโดยวิธีนี้ การบวงสรวงหรือการบูชาไฟจึงเกิดขึ้น โดยพวกนักบวชได้ปฏิบัติสืบกันมา ส่วนในสมัยพระเวท แรกทีเดียว การบูชาไฟ ก็เพื่อเอาใจเทพเจ้า เพื่อให้เทพเจ้าอำนวยสิ่งที่ตนปรารถนา แต่จะได้สมปรารถนาหรือไม่ขึ้นอยู่กับความกรุณาของเพทเจ้าเพียงอย่างเดียว คือ เป็นพิธีบูชายัญด้วยชีวิตสัตว์และมนุษย์ ซึ่งพระพุทธศาสนาได้ปฏิเสธในการบูชาเช่นนี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยการปฏิรูปเสียใหม่ คือให้เลิกวิธีการบูชายัญโดยใช้ชีวิตสัตว์และมนุษย์ มาเป็นการให้อภัยทาน แก่สัตว์และมนุษย์ ตลอดทั้งไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น
ส่วนแนวคิดเกี่ยวกับพิธีกรรมเกี่ยวกับไฟพระราชทานที่ปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบัน แนวคิดและความเชื่อของคนไทยส่วนใหญ่มาจากพระพุทธศาสนา และมีพิธีกรรมของพราหมณ์ปะปนอยู่มาก ที่เห็นได้ชัดคือ พิธีกรรมต่างๆ ที่เป็นพระราชพิธีและพิธีกรรมต่างๆ เช่น พิธีราชาภิเษก เป็นต้น พระราชพิธีที่มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ พิธีพระราชทานเมรุมาส ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่มีพื้นฐานมาจากศาสนาพราหมณ์ และแสดงถึง “ทิพภาวะ”ของพระมหากษัตริย์จึงต้องจัดให้มีความยิ่งใหญ่ให้เหมาะสมกับสมมติเทพ การใช้ไฟในการถวายพระเพลิงนั้นจะต้องเป็นไฟที่บริสุทธิ์ที่ได้จากแสงอาทิตย์ สมัยโบราณใช้ไฟประเภทนี้เฉพาะพระมหากษัตริย์แต่ปัจจุบันได้นำมาใช้กับคนสามัญทั่วไปที่ประกอบ
คุณงามดีที่เป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง และอีกนัยหนึ่งก็เป็นการส่งเสริมฐานะของกษัตริย์ให้สูงส่งยิ่งขึ้นด้วย
ดาวน์โหลด
|