บทคัดย่อ
สารนิพนธ์เรื่องนี้เป็นงานวิจัยเชิงเอกสารโดยมีการศึกษาภาคสนาม สัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย นำมาอภิปรายผลประกอบสารนิพนธ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหลักกรรมฐานในพระพุทธศาสนาเถรวาท และเพื่อวิเคราะห์การปฏิบัติตามหลักกรรมฐานสำหรับแก้ปัญหาความเครียดของคนในสังคมไทย
ผลการศึกษาพบว่า
หลักกรรมฐานแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ สมถกรรมฐาน คือกรรมฐานเป็นอุบายให้สงบ และวิปัสสนากรรมฐานคือกรรมฐานเป็นอุบายเรืองปัญญาเป็นคำสอนเพื่อพัฒนาจิตยกระดับจิตของปุถุชนธรรมดาให้ขึ้นสู่ระดับจิตความเป็นอริยบุคคลซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนาวิปัสสนากรรมฐานเป็นหลักปฏิบัติในด้านปัญญาเพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้พิจารณาด้วย”ปัญญาอันหยั่งถึงในรูปและนามตามสภาวะความเป็นจริงการเจริญวิปัสสนานั้นจุดมุ่งหมายเพื่อให้จิตได้เห็นแจ้งเป็นพิเศษในรูปนามและในขันธ์๕ว่าเป็นอนิจจังไม่เที่ยงทุกขังเป็นทุกข์อนัตตาไม่ใช่เป็นตัวบุคคลตัวตนเราเขาคือเราไม่สามารถที่จะบังคับบัญชามันได้ตามที่คนทั่วไปเข้าใจกันความเห็นแจ้งเป็นพิเศษนี้เรียกว่าวิปัสสนาคือปัญญาเจตสิกที่ปรากฏในมหากุศลญาณสัมปยุตตจิต
การปฏิบัติกรรมฐานส่งผลทำให้จิตใจผ่อนคลายความตึงเครียด จิตใจผ่องใส เกิดความสงบ เยือกเย็น ใจเย็นขึ้น ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการเรียน และการทำงานดีขึ้น เป็นผู้มีจิตเมตตากรุณา และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีสติดี คือระลึกได้ว่าจะทำอะไร ไม่หลงลืม มีสัมปชัญญะ คือรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใจลอย บุคคลผู้เป็นเช่นนี้จะตั้งอยู่ในศีล คือไม่ประพฤติทุจริตทางกายและวาจา มีจิตตั้งมั่นเป็นอันเดียว ไม่วอกแวกคิดฟุ้งซ่าน ทำให้เป็นคนที่มีความรอบรู้ในสิ่งอันเป็นประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์ สิ่งที่เป็นบุญและเป็นบาป สิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำ เป็นผู้มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ อ่อนน้อมถ่อมตน ดังนั้นการคลายเครียดนั้นสามารถใช้วิธีการต่างๆทางพระพุทธศาสนาได้ผลจริง แต่เป็นวิธีทางเลือกหนึ่งของบุคคลในการใช้คลาย การนำไปใช้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตัวผู้นำไปใช้เองว่ามีความสนใจที่จะปฏิบัติตามแนวทางนี้เพียงใด วิธีการถูกกล่าวถึงมากที่สุด คือ การทำสมาธิ หรือ การปฏิบัติกรรมฐาน การทำสมาธิเป็นวิธีการที่ทำให้จิตมีพลังนิ่ง สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ทำให้เกิดการผ่อนคลาย และยังเป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ ได้มีการนำสมาธิมาประยุกต์ใช้บำบัดรักษาคนที่มีความเครียดที่เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ด้วย การนำไปใช้ก็ควรเลือกวิธีการให้เหมาะสมกับอุปนิสัย แต่หากเป็นกลุ่มที่มีปัญหาจากความเครียดแล้ว เช่น มีโรคไมเกรน มีความดันสูง หรือเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว จะต้องมีผู้แนะนำหรืออยู่ในความดูแลของแพทย์ และมีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องของการทำสมาธิ ซึ่งใช้กับคนที่มีอาการทางจิตไม่ได้ นอกจากกินยาจนอาการดีขึ้นแล้วจึงใช้ได้ แต่สำหรับความเครียดในระดับทั่วไป สามารถเลือกวิธีการทำสมาธิต่างๆมาศึกษาเองได้
ดาวน์โหลด |